ความรู้สึกแรกที่เห็น KTM 690 Duke R ดูดีมีของ เหมือนจิ๊กโก๋รุ่นใหญ่ เก๋า,เร้าใจ อุปกรณ์ที่ติดมาใช้ของดีมีชาติตระกูล.โช๊ค,ท่อ,เบรค,ยาง ใช้ของคุณภาพสูงไว้วางใจได้. บอกเลย เจ๋งอ่ะ.
สัมผัสแรก เบา เบามาก. เข็นง่ายเบาแรง ไม่ต้องกังวลจะล้มแปะตอนเข็นเก็บ (ผมรู้หลายฅนเคยเจอเรื่องแบบนี้ บอกใครไม่ได้ ทั้งเจ็บทั้งอาย 55555 ). ท่านั่งสบายๆ รถถูกออกแบบมาค่อนข้างสูงแต่ด้วยความเบาจึงไม่ก่อปัญหา.ครึ่งฝ่าเท้าด้านหน้าก็รับน้ำหนักไหว. ส่วนตัวผมชอบรถที่ใต้ท้องค่อนข้างสูง เนื่องจากหลายๆเส้นทางไม่เป็นมิตรต่อรถเตี้ย ถนนหลายสายในเมืองไทยทำอกแตกได้ง่ายๆ. ผมเน้นกลับได้ไปถึง.
เอาไปลองของกัน ช่วงแรก เย็นวันศุกร์ในถนนที่รถติดมากที่สุดเส้นหนึ่งของกรุงเทพฯ. รถเบาๆเครื่องแรงๆท่านั่งสบายๆ ป่ะ!!ไปหาเรื่องเด็กแว้นดีก่า.5555 เริ่มที่โหมดขับขี่แบบ street บอกเลยพลิ้วมากๆ พลิกรถง่ายดายเข้าทุกช่องที่รถเล็กไปได้ แฮนด์สูงกว่ากระจกมองข้างรถเก๋งทุกคัน แต่!!! ทะเลาะกะรถ SUVและรถตู้ทุกคัน. 55555 . 690 Duke Rบอกผมให้รับรู้ถึงแรงบิดมากมาย พร้อมจะพุ่งออกไปทุกครั้งที่ผมเปิดคันเร่ง . ระบบแทคชั่นคอลโทล ป้องกันล้อหลังไม่ให้หมุนฟรีทำงานเร็วและแม่นยำ หลายครั้งที่เปิดคันเร่งบนเส้นจราจรหรือฝาท่อระบายน้ำ ล้อหลังแทบไม่มีอาการที่จะหมุนฟรี. ใต้ท้องสูงบวกช่วงล่างเทพๆข้ามทางรถไฟสบายไม่เกร็ง สะพานคอหักก็ยังสบาย คลัชน้ำมันเบาสบายมือซ้ายมาก คันเร่งไฟฟ้าแม่นยำและเบามือ
สรุปในเมือง รถเบาขี่ง่ายขี่มันส์
หลังจากลองขี่ในเมืองแล้วรู้สึกว่า 690 Duke R ขี่ง่ายขี่สบายและน่าจะพาไปเที่ยวไกลกว่านี้ ต้องไปเที่ยวซะหน่อย. พรุ่งนี้จะพาท่านดยุคไปเล่นโค้งและนั่งมองสาวๆที่ชายทะเล
วันที่2 เจอลองของแต่เช้า . ด้วยรูปทรงที่โดดเด่นเสียงที่ดึงดูดท้าทายของ 690 Duke R สปอร์ตอิตาลีราคาหลายล้าน ที่จอดติดไฟแดงข้างๆ เริ่มส่งสายตามอง เท้าขวาเบิ้ลเครื่องโชว์เสียงท่อ จาอาวว่างั้น ม่ะ!! เจอกัน ไฟเขียวปุ๊บ ปล่อยคลัชออกตัวธรรมดาเปลี่ยนเกียร์ที่หกพันรอบ 3เกียร์แรกพี่ขอ. . ลูกโตๆเดี่ยวๆสร้างอัตราเร่งที่สุดยอดมากๆ สร้างโจทย์อีกแล้ว 5555 ออกนอกเมือง ถ.บางนา-ตราด เช้าๆถนนโล่งและมีสะพานคอหัก ไว้แก้ง่วงเป็นระยะ ผมใช้ความเร็วเดินทาง 115-120 กม./ชม. รอบเครื่อง ประมาณ 5,000 รอบ/นาที ถือว่าค่อนข้างต่ำทำให้ ท่านขุนนางจิบน้ำมันสุภาพมากๆ. น้ำมันไปได้อีกไกลแต่มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ. แวะเติมพลังฅนขี่ที่เลี่ยงเมืองชลบุรี ทุกวันนี้มีสถานีบริการน้ำมันที่มีร้านอาหารและร้านกาแฟที่รสชาติดี,ราคาสมเหตุสมผล. ให้เลือกมากมาย. ผมจึงมักใช้เป็นจุดแวะ ยกเว้นในพื้นที่ใกล้เคียงจะมีร้านอาหารท้องถิ่นที่อร่อยกว่า
ในการเดินทางถ้าเราวางแผนให้เวลาอาหารของทั้งฅนและรถอยู่ในจุดเดียวกันจะประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากกว่าการเสี่ยงที่จะใช้ความเร็วสูง
ฅนพร้อมรถพร้อม มุ่งหน้า อ.แกลง ช่วงก่อนถึง บ้านบึง มีการก่อสร้างถนนตลอดเส้นทาง มีทั้งคอนกรีตพังๆ,ยางมะตอยที่เกือบเรียบ,ลูกรังบดอัด. ก็ไม่เป็นปัญหากะ 690. ช่วงล่าง,ยาง,เบรคทำงานได้ดีทุกสภาพผิวจราจร. ผ่านบ้านบึง ถนนโล่งและเรียบขึ้น. ทำความเร็วเดินทางได้ต่อเนื่อง กำลังเครื่องยนต์มีให้ใช้เหลือเฟือ.ทุกครั้งที่เร่งแซง ไม่ต้องลดตำแหน่งเกียร์ แค่ขยับข้อมือจะได้รับรู้ถึงพละกำลังที่ส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง.เส้นทางช่วงนี้ มีโค้งกว้างสลับภูเขาเตี้ยๆ 690 พาผมผ่านไปแบบสบายๆเพลินๆกลับการใช้คันเร่งและชมวิวสองข้างทาง.อารมณ์เหมือนขี่รถไซด์150 ที่โคตรแรง และแล้วก็ถึงเวลาทดสอบเบรคแบบไม่ตั้งใจ งูเลื้อยตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด เป็นไปตามที่คาดหวัง เบรค,ช่วงล่าง,ยางและระบบABS ทำงานได้ยอดเยี่ยม. ผมรอดจากบาปกรรมส่วนงูรอดตาย. เพลินๆกับการใช้คันเร่งยังไม่ทันจะเมื่อยก้นก็ถึง อ.แกลง น้ำมันก็ยังไม่หมด แต่ผมอยากรู้ว่า 1 ถัง ท่านดยุคจะพาผมไปได้ไกลแค่ไหน ลองเติมน้ำมันดูเลยละกัน 690 Duke. R ประหยัดน้ำมันกว่าที่คิด อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในหน้าปัดบอกว่า. 25.6 กม./ลิตร.
เติมแล้วคำนวนจากระยะทาง ปรากฎว่าหน้าปัด 690 ไม่โกหก. นั่นหมายความว่าน้ำมัน 1 ถัง 14 ลิตร ผมไปได้ไกลกว่า 300 กิโล. เยี่ยม!!! ไปกันต่อทูพีชยังรออยู่. ที่หมายคือ เนินนางพญาจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมสูงอีกจุด.แต่ก่อนจะไปต่อ มาแกลงทั้งทีจะไม่ใยดีเกี๊ยวปลาสามย่าน ของดีของแกลงได้ยังไง.
จัดกันไป ยังไม่เคยทำให้ผิดหวังสำหรับเกี๊ยวปลา.ด้วยความสดของวัตถุดิบ. ทั้งปลา,ปู,กุ้ง,หมู. รวมเข้ากับน้ำซุปรสเข้มข้น.ไม่ต้องปรุงก็สุดแล้ว. สำราญพุงแล้ว ไปนั่งจิบกาแฟแกล้มวิวทะเลดีกว่า ผมเลือกเส้นทาง. จบ.1036 เข้าสู่เนินนางพญา เพราะมีโค้งทั้งกว้างและแคบผิวถนนค่อนข้างดีและรถน้อยกว่าทางสายอื่น. 690 Duke R คืออีกสิ่งที่ไม่ทำให้ผมผิดหวัง. แรง,ขี่สนุก,มันส์และมั่นใจได้ตลอดเส้นทาง. อึดใจเดียวก็มาจอดเท่ห์ๆอวดสาวที่ร้านกาแฟชายทะเล
จอดให้สาวน้อยสาวใหญ่ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอ ผมก็ชวนท่านดยุคไปกันต่อ ใช้ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ มุ่งหน้าสู่แหลมสิงห์.ทางสวยบรรยากาศดีรถขี่สนุก. ผมลดความเร็วเดินทางให้ต่ำลง เพื่อชื่นชมและเก็บรายละเอียดความสวยงามของเส้นทางให้มากขึ้น พลิ้วไปตามโค้งขึ้นและลงเขาไปตามกระแสลมใต้ปีก. อิสระและสงบ. 690 Duke R ทำหน้าที่ถ่ายทอดการสื่อสารระหว่างฅนและเส้นทางอย่างตรงไปตรงมา. เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ผมเสพติดมันตั้งแต่วัยรุ่น. ถึงสะพานข้ามปากแม่น้ำจันทบุรีลงสู่แหลมสิงห์ ยังไม่เมื่อยไม่เหนื่อยแต่อยากจอดถ่ายรูปกับตึกแดง
แหลมสิงห์มีชายหาดที่เงียบสงบ,สวยงาม,มีร้านอาหารทะเล ราคาถูกและอร่อยให้เลือกมากมาย ที่พักสะอาดปลอดภัยและราคาไม่แพงมีให้เลือกหลายที่ แต่แรงยังเหลือไปกันต่อ ที่หมายต่อไป อ่าวตาลคู่ จ.ตราด. ออกจากแหลมสิงห์ มุ่งหน้าอำเภอขลุง ภาพการต่อรองซื้อขายผลไม้จากแผงขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้างของชาวบ้านตลอดสองข้างทาง เป็นวิถีชีวิตที่ยังคงงดงามและเป็นกันเอง สังเกตุเห็นว่าปีนี้มังคุดขาดตลาดแทบจะไม่มีขายบนแผงเล็กๆของชาวบ้าน. ผ่านสี่แยก อ.ขลุง ไปตามถนนสุขุมวิท ประมาณไม่กี่กิโลเมตร สังเกตซ้ายมือจะมีถนนสายสั้นๆ เป็นถนนอนุรักษ์ ที่ฅนจังหวัดตราดหลายฅนยอมเสียสละที่ดินเพื่อตัดถนนสายใหม่และเลือกเก็บต้นไม้ใหญ่อายุนับ 100 ปี ที่เรียงรายอยู่สองข้างทางของถนนช่วงสั้นๆนี้เอาไว้. เป็นการแก้ปัญหาที่น่าชื่นชม . ผมขอคารวะหัวใจทุกดวงของทุกฅนที่ยอมเสียสละเพื่อให้ลูกหลานได้พบได้เห็น ความงดงามอลังการของต้นไม้ใหญ่ที่เรียงรายอยู่คู่ถนนสายเล็กๆ ข้ามแม่น้ำเวฬุผ่านด่านตรวจถาวรเข้าสู่อำเภอแสนตุ้ง. แยกขวา ตามป้ายสนามบินตราด อีก 20กิโลถึงที่หมาย
อ่าวตาลคู่เป็นอ่าวเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ในดงมะพร้าว มีชายหาดเล็กๆ น้ำใสสวย.
วันที่ 3 เมื่อวานเย็นจำได้ว่าเข้าจากแยกขวามุ่งหน้าสนามบินประมาณ 2 กิโลเมตร มีร้านกาแฟดูดีน่านั่งอยู่ทางขวา เราไปเริ่มต้นวันนี้ที่นั่นดีกว่า บอกลาลุงป้าเจ้าของห้องพักโบกมือลาต้นไม้ที่อิงเอียงริมชายหาดสบตากับหมาที่เดินอยู่ข้างถนนและสัญญาว่า จะกลับมาอีก ย้อนกลับมาทางเดิม ร้านกาแฟที่หมายตาไว้อยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงปากทางประมาณ 2 กิโลเมตร โครงสร้างรูปทรงสะดุดตาสีสันน่ารักสดใส. มีที่จอดรถสะดวกสบายและปลอดภัยไม่ต้องจอดบนผิวจราจรให้คอยเป็นกังวลเวลาจิบกาแฟ. จอดรถเรียบร้อยมองชัดๆว่าร้านนี้ชื่อ ประ-พา-คาน อืมมมม จำง่ายนะแต่อ่านยาก 5555. ในร้านแบ่งที่นั่งลูกค้าออกเป็นสองส่วน .ด้านในมีเครื่องปรับอากาศส่วนด้านนอกที่เปิดโล่งในสวนเล็กๆ ร้านดูสบายๆและเป็นกันเอง โดยรวมแล้วดูดี
เริ่มแก้วแรกของวันนี้ เอสเปรสโซ่ร้อน หอมนำมาแต่ไกล ครีม่าหนานุ่มสวยบอกถึงคุณภาพของเครื่องชงและความสดใหม่ของเมล็ดกาแฟ จิบแรกก็โดนเลย ของเค้าดีจริง สอบถามเจ้าของร้านที่น่ารักอัธยาศัยดี. ได้ความว่า ร้านประพาคาน เลือกใช้เมล็ดกาแฟอราบีก้าชั้นดีที่ใส่ใจตั้งแต่เริ่มปลูก. ผ่านการคั่วจากโรงคั่วคุณภาพสูงตามสูตรเฉพาะของประพาคาน. ปักหมุดไว้เลยสำหรับคอกาแฟ. นอกจากกาแฟดีๆยังมีเครื่องดื่มทีเด็ด คือ น้ำผึ้งมะนาวโซดา และเครื่องดื่มสีสวยที่ชวนลองคือ sweet blue mint. ไม่ได้มีแต่เครื่องดื่มนะครับที่นี่ยังมี ,สเต็ก,สลัด,แซนวิช,ไข่กระทะ. และบางวันยังมี หมูต้มชะมวงสูตรย้อนยุค ของคุณแม่สงวน ไว้ให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปอร่อยต่อที่บ้านด้วย
อิ่มอร่อย ฅนพร้อมรถพร้อม .ใช้เส้นทางเดิมย้อนกลับ ข้าม แม่น้ำเวฬุได้ไม่ไกล ก็เจอฝน.ได้ลองโหมดขับขี่แบบฝนซะเลย. ปรับมาใช้โหมด Rain
คันเร่งจะหน่วงการตอบสนองให้ช้าลงอย่างชัดเจน ระบบแทคชั่นคอลโทลทำงานเร็วขึ้นอีก แม้กระทั่งผ่านน้ำท่วมขังบนผิวถนน ระบบยังลดรอบเครื่องยนต์ทันที ลุยฝนมาหลายกิโล บอกเลยเป็นการขี่มอไซค์ลุยฝนที่มั่นใจมาก. ขอบคุณท่านดยุคที่มีระบบดีๆติดมาให้ใช้. โบราณว่าไว้ หลังพายุฟ้าใสเสมอ ผ่านเขตฝนออกมาได้ ฟ้าสว่างทางโล่ง หลังจากที่ขี่ 690 Duke R มาหลายร้อยกิโล ความคุ้นเคยและความมั่นใจ มากขึ้น. ได้เวลาลองอีกโหมดขับขี่ที่เหลือ.
แค่ปรับมาเป็น Sport mode. ชีวิตเปลี่ยน. คำว่าบ้าเลือดน่าจะเหมาะกับโหมดนี้. กำลังเครื่องยนต์มาเต็มๆ จัดกันหนักๆไปแตะ 180 อย่างง่ายดาย ยังไปได้อีกนะ รถยังไหวแต่ใจผมหมด. 55555.
ย้อนกลับตามเส้นทางเดิมพระอาทิตย์ตกดินผมก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ. เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ประทับใจ ขอบคุณธรรมชาติที่สร้างสิ่งสวยงามไว้รอการไปเยือน ขอบคุณรอยยิ้มจากทุกคนที่พบเจอ. ขอบคุณน้ำใจจากรถเล็ก,ใหญ่ ที่ร่วมทางบนถนนทุกสาย.
สรุป หลังจากที่ได้รู้จัก KTM 690 Duke R และได้ขยี้,ขี่,เข็น,ล้าง ผมค้นพบว่า KTM 690 Duke R เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ ขี่ง่าย,ขี่มันส์,แรงมากแถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย
ข้อด้อยที่ผมเจอมี 2 ข้อเท่านั้นเองครับคือ
1,กระจกมองข้างสู้ลมไม่ไหวชอบก้มหน้าลง. แต่ปรับแต่งได้นะครับไม่ต้องเปลี่ยน
2,มุมของเรือนไมล์ . แสงอาทิตย์บางมุมรบกวนการอ่านหน้าจอได้
สุดท้ายต้องขอขอบคุณ บริษัท เบิร์นรับเบอร์ ที่ให้ความไว้วางใจ
เรื่องและภาพโดย โบลิ่ง