ปัญหาโลกแตก สำหรับใครที่กำลังจะออกรถใหม่ มักจะมีคำถามกับเพื่อนๆ แม้แต่กับสื่อต่างๆ ล้วนแต่เจอคำถามแบบนี้มาแล้วทั้งนั้นครับ “ออกรถศูนย์ไหนดี” วันนี้เราได้รับความเอื่อเฟื้อจากคุณ กอล์ฟ สายล่อฟ้า แอดมินเพจ #Vstrom #Thailand ที่นำเอาข้อคิดดีๆ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะตั้งคำถาม
เมื่อทำความเข้าใจกันแล้วเรามาเริ่มกันเลยครับกับคำถามสุดฮิต “ ออกรถศูนย์ไหนดีครับผม ? “ คำตอบของผมที่จะตอบกลับไปคือ #ออกกับตัวแทนจำหน่ายที่ใกล้บ้านท่าน ครับ หลายต่อหลายท่านออกรถจากตัวแทนจำหน่ายที่ไกลจากที่พักอาศัยมาก ด้วยเหตุผลและปัจจัยต่างๆนาๆอาทิเช่น
– พี่/เพื่อน ในกลุ่มหรือคนที่เรารู้จัก,เชื่อถือ แนะนำ
– เรื่องการเงิน / ไฟแนนท์ / ดอกเบี้ย / Black list
– ของแถม / อุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมที่ฟรี! และ ส่วนที่ลงลึกไปที่ไม่อยากกล่าว แต่ก็จะเป็นอันรู้กัน
– โปรโมชั่น พิเศษสุดแล้วแต่ว่าตัวแทนจำหน่ายที่ไหนจะงัดกันออกมาใช้เพื่อส่งเสริมการขาย
#ส่วนนี้เช่น การอบรมฟรีมากกว่า1ครั้ง , การเที่ยวออกทริป , การร่วมกิจกรรมEvent ต่างๆ ในส่วนนี้มีกี่ท่านที่จะไปได้ทุกครั้ง! เค้าเอามาถัวเฉลี่ยกัน ครับ
การออกที่ไหนมันคือสิทธิและการตัดสินใจของทุกท่าน เชื่อว่าทุกท่านคิดคำนวณทบทวนดีแล้ว ซึ่งมีเป้าหมายที่เหมือนกันคือ “ความคุ้มค่าและได้ผลประโยชน์เยอะที่สุด” ผมจะไม่ไปยุ่งกับการตัดสินใจส่วนตัวนี้ แต่ทำไม ผมถึงบอกว่า อยากให้ออกกับตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่านเพราะ
1. เรื่องความสะดวกสบาย : ในการรอรถ,รับรถ ตรวจเช็คสภาพรถก่อนและการเซ็นต์เอกสารต่างๆในการรับรถ ซึ่ง หลายท่านเลือกที่จะให้ไปส่งที่บ้านหรือที่ที่เราสะดวกให้ไป ตรงนี้ถ้าเราไปรับเองที่ศูนย์ได้จะดีมาก เพราะเราสามารถตรวจสอบรถเรา ทั้งตัวรถ ระบบเครื่องยนต์ เบรค ช่วงล่าง และ ของแต่งที่ได้ทำการตกลงกันไว้ หากเจอจุดไหนที่ผิดพลาดไป เราสามารถให้ทางศูนย์เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ทันที ไม่ต้องรอการรับปากจากเซลย์ที่ไปส่งรถให้ ว่า อาทิตย์หน้าเอาเข้ามาดูนะครับ/คะ หรือ พ้นรันอินแล้วเอาเข้ามาที่ศูนย์นะครับ/คะ เดี๋ยวจะจัดการให้ คุณคิดเหรอว่าเซลย์จะจำรายละเอียดได้หมด เพียงคำพูดปากเปล่า เซลย์แต่ละท่านไม่ใช่มีคุณเป็นลูกค้าเพียงคนเดียว ไม่ใช่แค่งานขายอย่างเดียว ทำงานหลายอย่างครับ อีกเรื่องที่สำคัญ การอธิบายเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องระบบและการใช้งานระบบต่างๆ ค่าที่ต้องสังเกตุและจดจำ , สัญลักษณ์บนหน้าปทม์ ของรถ , การแนะนำเรื่องการดูแลเบื้องต้น ถ้าไปรับรถเอง ทางศูนย์มีทั้งเซลย์และช่างคอยให้คำแนะนำนี้ได้โดยตรง
บางท่านอาจจะบอก รถใหม่ถือเคล็ดต้องให้มีคนมาส่ง หรือ รถใหม่ยังไม่กล้าขี่กลับบ้าน ยังไม่ชำนาญ กลัวเกิดอุบัติเหตุ เรื่องนี้ก็จริงครับ แต่สุดท้ายได้รับรถคุณก็ต้องลองขี่อยู่ดี มิหนำซ้ำอาจจะขับขี่ด้วยชุด เสื้อยืด การเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ขี่วนๆไป แต่ถ้าคุณมารับรถเองที่ศูนย์ผมเชื่อว่าเกินครึ่ง ทุกท่านแต่งเต็มยศมาครับ อย่างน้อยก็มีหมวกกันน็อค ถ้ากลัวเพราะรถใหม่ไม่คุ้นมือ ก็ขี่ช้าๆครับ ขี่เซฟตัวเอง เซฟรถ ถือว่าเป็นการเรียนรู้รถใหม่ไปในตัว
ส่วนกรณีที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆก็ให้ศูนย์มาส่ง ตกลง ตรวจสอบทุกอย่าง ให้ดี เช่นให้ถ่ายรูปทุกมุมของรถส่งมาก่อนค่อย ออกรถมาส่ง
2. เรื่องการดูแลหลังการขาย : ตรงนี้คือหัวใจสำคัญครับผม 100 ทั้ง 100 เอาเป็น 100 ละ 80 ก็ได้ เลือกที่จะใช้บริการหลังการขายที่ใกล้กับที่อยู่หรือที่ทำงาน เนื่องจากความสะดวกสบายและข้อจำกัดต่างๆ ที่บอกว่าหัวใจสำคัญมันอยู่ตรงนี้เพราะ ถ้าคุณออกรถกับศูนย์ที่ใกล้บ้าน คุณคือลูกค้า #หลัก ของศูนย์นะครับ ถ้าคุณออกจากที่อื่นและมาใช้บริการ คุณคือลูกค้า #รอง ครับ #เลิกมองโลกสวยและเปิดใจกันซะทีครับ ตัวแทนจำหน่ายยี่ห้อเดียวกันแต่คนลงทุนคนละคนกันครับ กระเป๋าใครกระเป๋ามัน เงินใครเงินมัน ทุกที่เต็มใจดูแลลูกค้าหมดครับ แต่ลูกค้าที่ออกรถกับศูนย์เค้าจะเป็นลูกค้าคนสำคัญครับ ใจเขาใจเรา เป็นผม ผมก็อยากดูแลลูกค้าที่ซื้อรถกับผมมากกว่า เพราะมันกลายเป็นความผูกพัน ความรับผิดชอบครับ นอกเหนือจากนี้ ยังมีผลประโยชน์อย่างอื่นแฝงอยู่ในการเข้ารับบริการแต่ละคร้ังนะครับ คือ
2.1. ค่าแรง/ชั่วโมง : เรตค่าแรงต่อชั่วโมงของการให้บริการคิดต่างกันครับ ไปดูในใบเสร็จได้ครับ ว่าคุณเจอค่าแรงเต็มดอก 1ชม.= 600บาท หรือ ต่ำกว่านั้น (ไม่พูดถึงลูกค้าที่สนิทหรือใช้บริการกับศูนย์มายาวนานนะครับ)
2.2. ส่วนลดค่าอะไหล่ : ส่วยลดค่าอะไหล่มีแน่นอนครับ ตามกติกาของแต่ละที่ ที่ได้ทำการตกลงกันไว้
2.3. ความช่วยเหลือฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเบาๆ ยันเรื่องที่ต้องใช้บริการรถสไลด์ หากออกศูนย์ใกล้บ้านท่านอย่างน้อยสุดเซลย์ที่ทำการขายรถให้คุณ คุณสามารถติดต่อแจ้งขอความช่วยเหลือได้เลย โดยที่เค้าจำคุณได้แน่ หรือ ถ้าอยู่ต่างพื้นที่ ก็สามารถเป็นผู้ประสานงานต่างๆให้ท่านได้ ตามเรื่องให้ได้ และ คุณสบายใจได้มากกว่าเมื่อรถคุณจอดอยู่ในศูนย์ที่คุณออกรถมา
2.4. ความรู้สึกเป็นมิตรในทุกครั้งที่ใช้บริการ การที่คุณนำรถเข้าศูนย์ไปแล้ว เซลย์มาต้อนรับหรือมีคนคอยรับเรื่องไว้รออยู่แล้ว กับการที่คุณเดินดุ่ยๆเข้าไปโดยที่คุณไม่รู้จักใครความรู้สึกมันต่างกันครับ
3. เมื่อเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นต้องเครมประกันทิ้งรถไว้ อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่าศูนย์ของคุณจะช่วยตามเรื่องเอกสารต่างๆ และ ช่วยดูเรื่องอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนเพิ่มเติม ส่วนการที่จะให้ศูนย์ตัวแทนหรือบุคลากร ออกตัวเรื่องเครมหรือสู้กับทางประกันนั้น อาจไม่สามารถทำได้เต็มที่ เนื่องจาก จะส่งผลเสียต่อทางศูนย์ จนอาจมีการตรวจสอบได้ว่ามีนอกมีในกับเคสอุบัติเหตุเคสนี้หรือทุจริตเรื่องอะไหล่รึเปล่า
4.. การออกรถกับตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่าน เป็นการช่วยรักษาสมดุลย์ของ การขาย ซึ่งแท้ที่จริงมีข้อตกลงอย่างชัดเจนในการกำหนดพื้นที่การให้บริการของแต่ละตัวแทนที่ทางบริษัทแม่ได้กำหนดไว้ เป็นการลดการแข่งขันและการขาย แบบขายแล้วทิ้ง ขายแล้วไม่ดูแล ลดการใช้เล่ห์เหลี่ยมอวิชาทางการตลาดมาเพื่อจำหน่ายสินค้า
เท่าที่คิดได้ตอนนี้ มีเท่านี้ครับ (ซึ่งบางส่วนผมไม่สามารถบอกได้ )
#สุดท้ายแล้วการตัดสินใจ ไม่ได้อยู่ที่ตัวผมหรือใคร มันอยู่ที่ตัวคุณ เงินของคุณ ผลประโยชน์ของคุณ เลือกสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดให้กับตัวเองน่ะถูกต้องแล้ว แต่ควรพิจารณาองค์ประกอบหลักอย่างอื่นที่ตามมาด้วยว่า ในระยะยาวแบบไหนคุ้มค่ากว่า ของหลักๆจะมีเหมือนกันหมดต่างกันที่รายละเอียดปลีกย่อย สิ่งที่คุณได้เพิ่มเติมมานั้นล้วนเป็นต้นทุนของผู้ประกอบการทั้งสิ้น สุดแท้แต่ว่า ใครจะยอมเสียกำไรน้อยลง หรือ นำส่วนเพิ่มที่เกิดนี้ไปซุกไว้ตรงจุดไหน โดยที่ท่านอาจจะไม่ทราบ …
กระทู้นี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อตัวแทนจำหน่าย แต่เขียนเพื่อพี่ๆเพื่อนๆในเพจ เพื่อผลประโยชน์ของทุกท่าน ด้วยความเคารพ #Vstrom #Thailand 🇹🇭
1. ผมเป็นกลางไม่มีอคติกับศูนย์ไหน เพราะ ทุกที่จำหน่ายรถจักรยานยนต์ ก็จะต้องมีขั้นตอนการปฎิบัติเหมือนๆกัน โดยรับการส่งมอบจากแหล่งเดียวกัน
2. เป็นความเห็นส่วนตัวผม + กับข้อมูลที่ผมพอจะรับทราบในแง่ต่างๆ
3. เพจเราเน้นให้ความสำคัญต่อสมาชิกซึ่งคือผู้บริโภคเป็นหลัก
4. อย่าเห็นผมเป็นศัตรู ขอให้มองอย่างเปิดกว้าง ในห้วงเวลาที่ต่างคนต่างเร่งทำยอดขาย แต่มันช่างยากเย็นแสนเข็น ขัดต่อ เศรษฐกิจ ณ.เวลานี้จริงๆ