จังหวัดอุทัยธานีสำหรับผม จะเคยไปก็แค่ที่อำเภอบ้านไร่ เท่านั้นครับ และก็นับจำนวยครั้งได้ ส่วนใหญ่ก็แค่ผ่านแบบห่างๆ เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอื่นๆ เท่านั้น ทว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมมีเวลาเพียงแค่ 1 วันที่จะเดินทาง เลยคิดว่าไปที่ไหนดี ระยะทางไม่ไกล สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ เสียงพรรคพวกก็แว่วเข้ามาว่าไปบ้านไร่ เอ้า ไปก็ไป แต่ในใจก็ยังคิดว่าไปทำไม
เราเลือกใช้เส้นทางสายสุพรรณบุรี – ดอนเจดีย์ – ด่านช้าง -บ้านไร่ ระยะทางรวมๆ ก็ร้อยกว่ากม.เท่านั้น แถมตลอดเส้นทางยังสามารถเลือกที่จะแวะเที่ยวเขื่อนกระเสียวได้อีก ไปถึงบ้านไร่เอาบ่ายๆ ขับรถต่อขึ้นไปบ้านแก่นมะกรูด เดินชมนกชมไม้สักพักก็กลับลงมา เวลายังเหลือ เลยนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองอุทัยธานี ที่กำลังดัง แน่นอนนว่าจะเป็นที่อื่นไปไม่ได้นอกเสียจาก ถนนคนเดิน “ตรอกโรงยา” เปิดแผนที่ดู ใช้เวลาเดินทางจาก อำเภอบ้านไร่ไปแค่ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น
หลังจากขับวนๆ หาที่จอดได้แล้ว เราก็ออกเดินสำรวจตลาดกันก่อน โดยยังไม่ผลีผลามซื้ออะไรแบบเป็นชิ้นเป็นอัน โชคเข้าข้างที่เราได้ที่จอดรถตรงหน้าตลาดพอดี ดังนั้นพงลงรถมาเราก็พบกับหมูสะเต๊ะที่ขึ้นชื่อของตลาดแห่งนี้ ดูจากจำนวนเตาที่มีมากถึง 3 เตาก็ไม่ต้องถามแล้วว่าขายดีขนาดไหน เราเดินผ่านไป ผ่านขนมมากมาย เจอของกินเก่าๆ อย่างปลาแนม ห่อละ 10 บาท เอ้า หิ้วติดมือมาซะ เดินไปเรื่อยๆ ถึงวงเวียน เงยหน้าขึ้นไปเห็นป้าน “ตลาดเก่าบ้านสะแกกรัง” กับป้ายเล็กๆ “ตรอกโรงยา” ถ่ายรูปเก็บไว้เดียวหาว่ามาไม่ถึง
เดินเลยขึ้นไปทางรร.จีน ตลาดเริ่มเงียบๆ เลยวนกลับ เดินเลยไปตามส่วนแยก เจอขนมเปี้ย จัดไปไส้ฟักกับถั่ว ก้อนละ 20 บาท หวานอร่อยลิ้น เห็นป้ายร้านเป็ดพะโล้ ส่งสายตาเข้าไปในร้าน ลุงแกคงเข้าใจว่าเราอยากกิน(จริงๆ ก็อยากละ) แกบอกว่าวันนี้หมดแล้ว ให้มาใหม่ช่วงเช้านะ….. อด
เดินมาเรื่อยๆ เจอร้านกาแฟโบราณ เข้าไปนั่งสั่งน้ำหวานมาดื่มแก้ร้อน เจ้าของร้านมาแนะนำให้ลองหมูย่างใบชะพลู เอ้า เอามาลอง ก็หอมๆ ครับ แต่สำหรับผมว่ามันยังธรรมดา น้ำหวานหมดแก้วหายเหนื่อย ออกเดินชมตลาดกันต่อ เห็นร้านรวงเก่าๆ แล้ว ชอบใจ เพราะส่วนใหญ่เก่าจริง ตลาดเองก็โล่งโปร่ง เดินสบาย มาได้หน่อยเดียว เจอปลาดุผัดพริกแกงจัดมา 1 ถุง 30 บาทเท่านั้น แต่ป้าแกใส่ปลามาเกือบทั้งตัว รสชาตเองก็จัดว่าเยี่ยมครับ
ว่าแล้วก็มาถึงจุดเริ่มต้น หมูสะต๊ะ หลังจากเดินวนไปวนมา เราก็ไปขอบัตรคิวมา ได้หมายเลข 51 จากที่เรียกอยู่เวลานั้นคือคิวที่ 30 รอซิครับ ระหว่างนั้นเราก็สังเกตคนที่มายืนรอคิวเช่นเดียวกัน ก็ไม่มีใครบ่นอะไร เรายังมีเวลาเดินไปซื้อมะม่วงแช่อิ่มที่ร้านอีกฟากถนนมาด้วยซ้ำ จากนั้นได้คุยกับคิวที่ต่อจากเรา เขาเล่าให้ฟังว่าขับรถมาจากชัยนาท มา 3 ครั้งแล้ว ไม่ได้กินสักที เพราะคิวยาวมาก ชนิดยาวข้ามเล่มกันเลยทีเดียว วันนี้ถือว่าโชคดีที่รอแค่ 20 กว่าคิวเท่านั้น
เสียงเรียก คิวที่ 51 ถึงแล้ว ได้ชิมของอร่อยละนะ 20 ไม้ จัดมา (ไม้ละ5บาท) เนื้อหมูหมักกะทินุ่ม หอมมาก ย่างแบบเตาถ่านไฟแรงๆ น้ำจิ้มหอมมันถั่วป่นละเอียดไม่ติดฟัน555 หมูสะเต๊ะหมดไปในเวลาไม่นาน ถึงกับจุกเพราะไม้ใหญ่มาก เราเดินกลับมาที่รถ เห็นร้านอาหาร “เจ้ดา ปลาลวก” คนแน่ร้านแต่หัววัน ทว่าถึงเวลาจะต้องเดินทางกลับแล้ว ได้แต่ฝากไว้รอบหน้าที่จะมาเยือน จังหวัดอุทัยธานี จะต้องมาชิมร้านนี้ให้ได้
สำหรับท่านที่จะไปเดินตลาด “ตรอกโรงยา” ควนไปถึงแต่เนิ่นๆครับ ออกจากกทม.เช้าก็ได้ แวะเที่ยววัดท่าซุง ไปเที่ยวป่าเที่ยวเขา แล้วบ่ายๆ เย็นๆ ก็มาเดิน ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ประวัติความเป็นมา
ถนนคนเดินตรอกโรงยา ของจังหวัดอุทัยธานี ถือเป็นเมืองท่าข้าวมาแต่โบราณ สำหรับผู้ที่ล่องเรือผ่านไปมาในแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างปากน้ำโพและกรุงเทพฯ มักแวะเข้ามายังแม่น้ำสายเล็กๆที่มีชื่อว่าแม่น้ำสะแกกรัง เพื่อซื้อข้าวของแลกเปลี่ยนสินค้ากัน ชุมชนแห่งนี้จึงถูกเรียกขานจากชาวเรือว่า “ชุมชนบ้านสะแกกรัง” หรือออกเสียงแบบคนจีนว่า “เซ็กเกี๋ยกั้ง” มองไปรอบๆจะเห็นอาคารบ้านเรือนเรียงรายกันเป็นตรอก แต่ละครอบครัวมีกิจการแตกต่างกันออกไป บ้างก็จำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค บ้างก็จำหน่ายอาหารการกิน ซึ่งมีอยู่เรียงรายภายในตรอกโรงยา ในสมัยก่อนตรอกย่านนี้คือสถานที่สูบฝิ่นอย่างถูกกฎหมายของชุมชน โดยในแต่ละวันมีชาวบ้านเข้ามาสูบฝิ่นจำนวนมาก ทำให้เกิดการค้าขายอย่างคึกคัก จนมาถึงสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ประกาศให้ยกเลิกการสูบฝิ่น ทำให้ตลาดในช่วงนั้นซบเซา เนื่องจากผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นอพยพไปทำงานที่อื่นกันหมด ในปี 2553 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี ชุมชนทั้ง 15 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ภาคเอกชน ภาคประชาชน และมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมมือกันพัฒนาบริเวณตรอกโรงยาและบริเวณโดยรอบให้เป็นย่านการค้าของดโดยจัดให้มีกิจกรรมถนนคนเดินในทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00น. ในบริเวณตรอกโรงยา ตรอกโรงยา และปี 2559 โดยกรมการค้าภายในร่วมกับจังหวัดอุทัยธานี
โครงการตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท้องถิ่น ภายใต้ชื่อ “ตลาดต้องชม” ตามนโยบายรัฐบาล และจังหวัดอุทัยธานี ได้คัดเลือก ถนนคนเดินตรอกโรงยา เป็น “ตลาดต้องชม” แห่งแรกของจังหวัดเนื่องด้วยเป็นตลาดของชุมชนที่คนในชุมชนผลิตเอง จำหน่ายเอง เป็นการเชื่อมโยงตลาดภาคการค้ากับการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชน ทำให้ชุมชนเข้มแข็งอย่างแท้จริง