บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์นิสสัน ซิลฟี ใหม่ เส้นทาง เชียงใหม่ – ลำพูน – เชียงใหม่ สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวล แต่ตอบสนองทุกสภาพถนน ความกว้างขวาง เงียบและสะดวกสบายจากอุปกรณ์และห้องโดยสารภายใน พร้อมเยี่ยมเยือนแหล่งวัฒนธรรม เข้าคอนเซ็ปของการเดินทางเพื่อความสุนทรีย์ของการใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริง
การทดสอบครั้งนี้ บริษัท ฯ ได้จัดเตรียมรถยนต์ นิสสัน ซิลฟี ใหม่ เครื่องยนต์ เบนซิน 1.8 ลิตรจำนวน 10 คัน เพื่อให้สื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง การบังคับควบคุม ระบบส่งกำลังแบบ CVT ที่ตอบสนองทันใจ และนุ่มนวล รวมทั้งความสะดวกสบาย กว้างขวาง ความนุ่มและเงียบแม้ขณะขับขี่ในระดับความเร็วสูง
กิจกรรมการทดสอบรถยนต์นิสสัน ซิลฟี ใหม่ ได้ใช้เส้นทางเชียงใหม่ – ลำพูน – เชียงใหม่ โดยมีจุดเริ่มต้นที่สนามบินนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ สู่เส้นทางสายหลักไปยังวัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน เพื่อทดสอบอัตราเร่งและความนุ่มนวลจากเส้นทางตรง พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และถ่ายภาพสวย ๆ สะท้อนอารยธรรมล้านนา
จากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่ อำเภอแม่ริม สัมผัสเส้นทางธรรมชาติของขุนเขาและสภาพการขับขี่ที่มีทั้งความคดเคี้ยวและลาดชันเป็นบางช่วง เพื่อทดสอบการบังคับควบคุม ระบบช่วงล่าง และอัตราเร่ง หลังจากนั้นจึงเป็นการทดสอบต่อบนเส้นทางยาวตรง สลับทางคดเคี้ยว และเส้นทางในเมือง ของอำเภอแม่งัด-แม่โจ้-เมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับนิสสัน ซิลฟี ในรูปแบบของการใช้งานจริง เพื่อให้เห็นความคล่องตัวตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ส่วนจุดเด่นของนิสสัน ซิลฟี ใหม่ นั้น คือ
1) เอกลักษณ์ที่สะท้อนความมีระดับ (Energetic Sedan Expression)
– รูปลักษณ์งามสง่าทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านท้าย นิสสัน ซิลฟี ใหม่ได้รับการออกแบบให้มีความสมดุลมากขึ้น โดยมีขนาดตัวถังใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน และยังได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ท ให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำเพียง 0.29 ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ดูโค้งมน สวยงาม ให้สมรรถนะที่ดีมากขึ้นและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ
– ขยายพื้นที่บริเวณกระจกหน้า เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ กันชนขนาดใหญ่และกระจังหน้าพร้อมช่องระบายอากาศแบบรังผึ้งที่ออกแบบมาให้ดูมีมิติมากขึ้น เพิ่มความปลอดภัยและช่วยควบคุมการถ่ายเทอากาศ
– โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าแบบ Multi-reflector พร้อมไฟแบบ LED ที่ได้ติดตั้งทั้งในตำแหน่งไฟหรี่ด้านหน้า ชุดไฟท้าย ไฟเบรคดวงที่สาม และไฟเลี้ยวบริเวณกระจกมองข้าง และไฟอ่านแผนที่รวมรอบคัน 54 ดวง เพิ่มความหรูหรา สะท้อนความมีระดับที่เหนือชั้นกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน
– ห้องโดยสารภายในที่กว้างที่สุดเทียบเท่ารถยนต์นั่งหรูระดับกลาง และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถที่มีขนาดความจุมากถึง 510 ลิตร ใหญ่ที่สุดในระดับเดียวกันและเทียบเท่ารถยนต์นั่งหรูระดับใหญ่ พร้อมช่องกลางทะลุถึงห้องโดยสารด้านหลัง สะดวกสบายต่อการใช้งาน
– ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และชุดโครเมียมบริเวณกระจังหน้า ที่เปิดประตูและด้านกระโปรงท้าย เสริมภาพลักษณ์ของซีดานระดับพรีเมี่ยม
2) รังสรรค์เพื่อทุกสัมผัสแห่งความสุข (Delight for All)
– พื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาดใหญ่ ช่วยให้เข้า – ออกห้องโดยสารได้สะดวกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
– สีภายในแบบเบจโทนใหม่ และบริเวณคอนโซลใช้วัสดุคุณภาพสูงที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษ Micro-grain เพื่อลดแสงสะท้อน ให้ความรู้สึกอบอุ่น พร้อม
บุวัสดุบุนุ่ม (soft pad)บริเวณด้านหน้าคอนโซลและด้านข้างประตูให้ความรู้สึกนุ่มนวลทุกสัมผัส
– เบาะนั่งขนาดใหญ่ ใช้วัสดุหนัง ( ในรุ่น 1.8V Navi 1.8V และรุ่น 1.6V) พร้อมที่พักแขนและที่วางขวดหรือแก้วน้ำ และพนักพิงศรีษะปรับระดับได้บริเวณที่นั่งด้านหลัง เพิ่มความสะดวกสบาย โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกล มีพนักเท้าแขนด้านหน้าพร้อมช่องเก็บของมีฝาสไลด์ปิด
– แผงคอนโซลด้านหน้าออกแบบให้ใช้ง่ายตามหลักสรีระศาสตร์หรือ Ergonomic design เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน
– แผงคอนโซลกลางตกแต่งด้วยชุดลายไม้ (ในรุ่น1.8V Navi 1.8V และ 1.6 V) เพิ่มความหรูหรา และชุดเมทัลลิกให้ดูโฉบเฉี่ยว (ในรุ่น 1.6E และ 1.6S ลิตร)
– พวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่นแบบ 3 ก้าน ปรับได้ 4 ทิศทางหุ้มหนัง (ในรุ่น1.8V Navi 1.8V และ 1.6 V) สไตล์สปอร์ต ช่วยให้คล่องตัว พร้อมระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) บังคับได้อย่างแม่นยำ และเพิ่มความสะดวกสบายกับสวิทซ์ควบคุมเครื่องเสียงและหน้าจอ MID ที่พวงมาลัยและระบบควบคุมเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) เพื่อความปลอดภัย
– แผงหน้าปัดเรืองแสง (Fine Vision Meter) ขนาดใหญ่พร้อมจอแสดงข้อมูล Multi Information Display ในทุกรุ่น เพื่อแสดงข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งในแบบใช้จริง และเฉลี่ย/ชั่วโมง มาตรวัดระยะทางย่อยและระยะทางรวม สะดวกต่อการใช้งาน
– ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมแยกปรับอุณหภูมิอิสระได้ซ้าย –ขวา และโดดเด่นไม่เหมือนใครในระดับด้วยระบบช่องแอร์ด้านหลังสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง (เฉพาะรุ่น 1.8V Navi 1.8 V และ 1.6 V)
– ชุดเครื่องเสียงแบบ Built-in ลำโพง 6 ตัว พร้อมหน้าจอสีขนาด 4.3นิ้วในรุ่น1.8 V เล่นซีดี 1 แผ่นและเครื่องเล่น MP3 และช่องต่อ AUX และอุปกรณ์เชื่อมต่อ USB บริเวณช่องเก็บของ เพื่อเพิ่มความรื่นรมย์จากเสียงเพลงขณะขับขี่
– สำหรับรุ่น 1.8V Navi เพิ่มเติมระบบนำทาง Navigation system บนหน้าจอ 5.8นิ้ว สะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นการค้นหาสถานที่
– กล้องมองหลัง (เฉพาะรุ่น 1.8V และ 1.8V Navi) มองได้ไกลถึงสามเมตร เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
– ระบบกุญแจอัจริยะ Intelligent key พร้อมปุ่มเปิดท้ายรถและระบบ Immobilizer และ Panic alarm กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ
– และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push start button เพิ่มความสะดวกสบายทุกการเดินทาง
3) เทคโนโลยีเพื่อความคุ้มค่าและความปลอดภัยสูงสุด (Clever Efficiency)
– เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ใหม่ รหัส MRA8DE ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มช่วงชักกระบอกสูบผสานไปกับการทำงานของระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC (Twin Continuously-Variable Timing Control) เพิ่มระยะชักกระบอกสูบให้ยาวขึ้นทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเคลือบแข็งระบบสปริงวาล์ว Diamond-like carbon coating ช่วยลดน้ำหนัก แรงเสียดทานและแรงเฉื่อยของวาล์ว เสริมประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ เงียบขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ความจุกระบอกสูบ : 1,798 ซีซี
แรงม้าสูงสุด PS (กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) : 131(96/6000)
แรงบิดสูงสุด นิวตัน-เมตร (กก-ม)/รอบต่อนาที : 174 (17.8)/3600
ระบบขับเคลื่อน : XTRONIC CVT
– เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว รหัส HR16DE ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ และได้ติดตั้งระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC (Twin Continuously Variable Timing Control) ผสานกับการทำงานของระบบหัวฉีดคู่ Dual Injector System นับเป็นครั้งแรกในรถยนต์ระดับเดียวกัน เพื่อช่วยให้เกิดการเผาไหม้เกิดการเสถียรได้ดียิ่งขึ้น เพื่อสมรรถนะที่ดีกว่าและประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
ความจุกระบอกสูบ : 1,598 ซีซี
แรงม้าสูงสุด PS (กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) : 116 (85/5600)
แรงบิดสูงสุด นิวตัน-เมตร (กก-ม)/รอบต่อนาที : 154 (15.7)/4000
ระบบขับเคลื่อน : MT/XTRONIC CVT
– เทคโนโลยี เพียวไดร์ฟ (Pure Drive Technology) เทคโนโลยีแห่งอนาคต เพื่ออากาศสะอาด เพื่อคุณ เพื่อโลก นิสสัน มีความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พัฒนาเครื่องยนต์ที่ช่วยลดมลพิษในอากาศ
– ระบบเกียร์อัจฉริยะแปรผัน XTRONIC CVT เพื่อทุกการขับขี่ที่นุ่มนวล จากการพัฒนาระบบเกียร์ให้มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบาลง แต่ให้อัตราทดเกียร์ที่กว้างขึ้น ตอบสนองทุกรูปแบบของการขับขี่และประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
– โครงสร้าง Zone Body Concept เอกสิทธิ์เฉพาะนิสสัน แข็งแกร่ง ทนทาน รองรับน้ำหนักและลดแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สัน สตรัท และระบบช่วงล่างด้านหลังทอร์ชั่น บีม พร้อมเหล็กกันโคลง ลดการสั่นสะเทือนทุกสภาพถนน ช่วยให้ทุกการขับขี่นุ่มนวล
– ระบบความปลอดภัย Safety Shield แนวคิดยานยนต์เพื่อความปลอดภัยจากนิสสัน ที่จะมอบความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ก่อนที่ความเสี่ยงจะมาถึง นิสสัน ซิลฟี ใหม่ จึงมาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยที่ให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบดิสก์เบรค 4 ล้อ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED โดดเด่นชัดเจนในระยะไกล เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS Airbags) ในทุกรุ่นเพื่อลดความรุนแรงจากกการบาดเจ็บในกรณีที่เกิดแรงปะทะจากด้านหน้า ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) เพื่อป้องกันล้อล็อคและลื่นไถลเมื่อต้องมีการเบรกกะทันหัน ระบบเสริมแรงเบรก (BA) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ช่วยให้ระบบเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดระยะเบรกลงได้ 10-15 เปอร์เซ็นต์ และมั่นใจ อุ่นใจมากขึ้นกับระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilzer
นิสสัน ซิลฟี ใหม่ มีให้เลือก 6 รุ่น เครื่องยนต์ 1.6 ซีซี 4 รุ่นและ เครื่องยนต์ 1.8 ซีซี 2 รุ่น
1.8 V Navi CVT |
1.8 V CVT |
1.6 V CVT |
1.6 E CVT |
1.6 S CVT |
1.6 S MT |
นิสสัน ซิลฟี ใหม่ มีให้เลือก 6 สี
KBD | สีเทา ดีพ ไอริส เกรย์ |
QX1 | สีขาวมุก ไวท์ เพิร์ล |
K23 | สีเงิน บริลเลี่ยนท์ ซิลเวอร์ |
G42 | สีดำ แบล็กสตาร์ |
NAH | สีแดง เรเดียนท์ เรด |
KAC | สีน้ำตาล เกรย์ยิช บรอนซ์ |