Thursday, April 24, 2025
Homeเคล็ดไม่ลับน้ำมันเครื่อง ทางเลือกที่คาดไม่ถึง

น้ำมันเครื่อง ทางเลือกที่คาดไม่ถึง

เมื่อวาน เปิดดูเครื่องยนต์ เพื่อเช็คระดับน้ำมันเครื่อง ปรากฏว่า น้ำมันพร่องไปเล็กน้อย ซึ่งก็ยังถือว่าอยู่ในระดับปกติของเครื่องยนต์ดีเซลสมัยใหม่ที่ต่างก็เป็นแบบคอมมอลเรลหมดแล้ว เมื่อน้ำมันพร่อง ก็ต้องหามาเติมให้อยู่ในระดับ ตามที่ระบุเอาไว้ บนก้านวัด ซึ่งก็ไม่น่าจะยาก เพียงแค่ซื้อน้ำมันเครื่องให้ตรงรุ่นกับของเดิมที่ใช้อยู่ เป็นใช้ได้ แต่ประเด็นที่จะเอามาคุยตรงนี้อยู่ที่ หากเราอยู่ในสถานที่ หรือพื้นที่ ที่สามารถหาน้ำมันเครื่องได้ง่ายๆ อยู่ในเมือง หรือที่ไหนๆ ที่มีร้าน มีปั๊ม เราก็แค่ไปเลือกซื้อมาเติมเท่านั้นเอง  แต่ถ้าเมื่อไรที่เราไม่สามารถเลือกได้ว่าต้องการน้ำมันเครื่องแบบนั้น แบบนี้ เพราะอยู่ในดินแดนที่ตัวเลือกน้อย ห่างไกล หรือแม้แต่จวนตัว อยู่ในไร่ในสวน เราจะทำอย่างไรได้

มาทำความรู้จักกับน้ำมันเครื่องกันก่อน

 น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ (motor oil, engine oil) หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า น้ำมันหล่อลื่น หรือ น้ำมันเครื่อง ประกอบไปด้วย 2 ส่วนที่สำคัญคือ  ส่วนที่เป็นน้ำมันพื้นฐาน และสารเพิ่มคุณภาพ น้ำมันเครื่องมีหน้าที่ลดแรงเสียดทานของวัตถุชิ้นที่เสียดสีกัน ระบายความร้อนของเครื่องยนต์เคลือบช่องว่างระหว่างผิวสัมผัส ทำความสะอาดเขม่าและเศษโลหะภายในเครื่องยนต์ ป้องกันการกัดกร่อนจาก สนิม และกรด ต่างๆ และป้องกันกำลังอัดของเครื่องยนต์รั่วไหล เป็นต้น

 กระบวนการผลิต

แหล่งที่มาของน้ำมันพื้นฐานที่ใช้ทำมันเครื่องมี 3 แหล่งคือ

  1. น้ำมันที่สกัดจากพืช

  2. น้ำมันที่สกัดจากน้ำมันดิบ

  3. น้ำมันสังเคราะห์ น้ำมันชนิดนี้จะให้คุณภาพของน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุด

  4. น้ำมันหล่อลื่น

 Lube Oil , Lubricating Oil ผลิตภัณฑ์ ที่ได้จากการกลั่น น้ำมันดิบ มีช่วงจุดเดือดระหว่าง 380-500 องศาเซลเซียส และเติมสารเพิ่มคุณภาพต่างๆ ในปริมาณเล็กน้อยเพื่อปรับปรุงสมบัติให้เหมาะสมสำหรับใช้งานหล่อลื่นแต่ละอย่าง เช่น ความหนืดโดยเยื่อบางๆ หรือเนื้อครีม ของน้ำมันหล่อลื่นจะเคลือบอยู่ระหว่างผิวของชิ้นส่วน 2 อย่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนโลหะที่มีการเคลื่อนไหวผ่านไปมา ทำหน้าที่ป้องกันการเสียดสีกันโดยตรง ขณะเดียวกันจะช่วยทำความสะอาด และระบายความร้อน โดยช่วยระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ แอดดิทีฟอื่นๆ ที่มักผสมลงไปด้วย ได้แก่ สารป้องกันสนิม และการกัดกร่อน

 มาตรฐานน้ำมันเครื่อง

  1. มาตรฐานของสมาคม วิศวกรรมยานยนต์ (Society of Automotive Engineer : SAE) ใช้ระบุความหนืด(ความข้นใส) ของน้ำมันเครื่อง ค่ายิ่งมากก็ยิ่งมีความหนืดมาก โดยแบ่งน้ำมันเครื่องออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ

  • เกรดเดียว (monograde) คือน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดค่าเดียว เช่น SAE 40 หมายความว่า ณ อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส น้ำมันจะมีค่าความหนืดอยู่ที่ เบอร์ 40

  • เกรดรวม (multigrade) คือน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืด 2 ค่า เช่น SAE 20W-50 หมายความว่า ในอุณหภูมิ -25 องศาเซลเซียส น้ำมันจะมีค่าความหนืดอยู่ที่ เบอร์ 20 แต่เมื่ออุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียส จะเปลี่ยนค่าความหนืดเป็น เบอร์ 50

  • อักษร “W” ใช้เป็นตัวบ่งบอกว่าค่าความหนืดนี้เป็นเกรดฤดูหนาว (วัดที่ -25 องศาเซลเซียส) หากไม่มีจะเป็นเกรดฤดูร้อน (วัดที่ 100 องศาเซลเซียส)

  1. มาตรฐานของ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (The American Petroleum Institute : API) ใช้ระบุประเภทของเครื่องยนต์ และสมรรถนะในการปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ สำหรับเครื่องยนต์เบนซินใช้อักษร “S” (spark ignition) เช่น SA SC SD SE SF SG SH SI SJ SL SM SN ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลใช้อักษร “C” (compress ignition) เช่น CD CB … CF4

  2. บางครั้งเราอาจเห็นทั้ง “S” และ “C” มาด้วยกัน เช่น SG/CH4 หมายถึง น้ำมันเครื่องนี้เหมาะสำหรับการใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน แต่ก็สามารถใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลได้ในระยะสั้น หรือ CH4/SG ก็จะกลับกันกับกรณีข้างต้นคือเหมาะสำหรับการใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล แต่ก็สามารถใช้กับเครื่องยนต์เบนซินได้ในระยะสั้น

 แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีโอกาศเลือกมากนัก เช่น รถดีเซล แต่มีเฉพาะน้ำมันเครื่องเบนซิน หรือรถนั่งเครื่องเบนซิน แต่เขามีแต่น้ำมันเครื่องดีเซล หรือไม่มีเลยทั่งคู่ เราจะทำอย่างไรกันดี…..คำตอบง่ายๆ ครับ มีอะไรก็ใช้อันนั้น ขอให้เติมได้ถึงระดับตามไม้วัดเท่านั้น เพราะ ถ้าเราจะต้องออกเดินทางทั้งที่น้ำมันเครื่องแห้งๆ ย่อมจะเสี่ยงและเป็นอันตรายกับเครื่องยนต์อย่างมาก แต่ถ้าเราเติมให้มีน้ำมันหล่อลื่นได้ระดับแล้ว แม้จะผิดเบอร์ ผิดกลุ่มไปบ้าง แต่มันก็ยังเป็นน้ำมันหล่อลื่น เราสามารถออกเดินทางมายังสถานที่ที่สามารถซื้อหาน้ำมันเครื่องที่ถูกต้องได้ ก็จัดการเปลี่ยนถ่ายออกซะเท่านั้นเอง ซึ่งในกรณีนี้ รวมไปถึงหากหาอะไรไม่ได้เลยจริงๆแล้ว น้ำมันพืช น้ำมันหมูเองก็สามารถใช้แทนได้ด้วยเช่นกันครับ

ก็ขออวยพรให้ทุกๆท่าน ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น แต่ถ้าเข้าไปแล้วไม่มีทางเลือกมากนัก อย่างลืมที่อ่านไปแล้วกันครับ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -










- Advertisment -