Tuesday, October 3, 2023
HomeNew Carsปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) ใหม่ล่าสุด

ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) ใหม่ล่าสุด

image

911 คือรถสปอร์ตที่ขายดีที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน และในตอนนี้ 911 รุ่นใหม่ได้ออกมาให้ยลโฉมเพื่อยึดครองความเป็นผู้นำได้อย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นใหม่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ Turbo Flat ที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำ ตัวถังมาพร้อมกับประสิทธิภาพ การผสมผสานสมรรถนะเครื่องยนต์กับความสะดวกสบายให้มีความสมดุลร่วมกัน และมาพร้อมระบบ Infotainment ใหม่ล่าสุดที่ติดตั้งมากับรถอีกด้วย ต้องชื่นชมเครื่องยนต์เทอร์โบที่ ปอร์เช่ใช้กับทั้งรถแข่งและรถสายการผลิต ทำให้เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดของ 911 คาร์เรร่า (Carrera) ออกมาสร้างมาตรฐานใหม่ในเรื่องของประสิทธิภาพ ความสุนทรีย์ในการขับขี่ และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างแน่นอน อีกหนึ่งความโดดเด่นคือ Rear-Axle steering ที่สามารถเลือกติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมให้กับ คาร์เรร่า เอส (Carrera S) ได้เป็นครั้งแรกและจะส่งผลให้มีความคล่องตัวในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

จุดเด่นของภายนอก 911 ใหม่สะท้อนออกมาอย่างโดดเด่น ตั้งแต่ไฟหน้าที่มาพร้อมกับไฟ Daytime 4 ดวง (Four point daytime running lights) จนไปถึงที่จับประตูและฝากระโปรงหลังได้รับการออกแบบใหม่ตัดเข้ากับไฟท้ายแบบใหม่ล่าสุดได้อย่างลงตัว รวมถึงไฟเบรกแบบ 4 ดวง (Four point daytime brake lights) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ส่วนภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับระบบ Porsche Communication Management ฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ ระบบสัมผัสและง่ายต่อการใช้งาน

เครื่องยนต์ Turbocharged ใหม่ล่าสุด: เพิ่มพละกำลังมากขึ้น 20 แรงม้า อีกทั้งประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น

การปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมดพร้อมด้วยตัว Bi-turbo charging ส่งผลให้เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดย 911 คาร์เรร่า (Carrera) มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 370 แรงม้า (272 กิโลวัตต์) จากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งทางด้านหลัง ส่วนรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงถึง 420 แรงม้า (309 กิโลวัตต์) โดยทั้ง 2 รุ่น เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมถึง 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์) นอกจากนี้เครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่นมีขนาดความจุที่ 3 ลิตร พละกำลังเครื่องยนต์ที่มากกว่าของรุ่น 911
คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) ได้มาจากการพัฒนา Turbochargers, ระบบท่อไอเสียสปอร์ตและการจัดการเครื่องยนต์ให้สมดุลมากขึ้น

image

เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดของปอร์เช่ได้เพิ่มศักยภาพของแรงบิดให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน (เพิ่มขึ้น 60 นิวตันเมตร) ทำให้มีแรงบิดสูงสุดถึง 450 นิวตันเมตร และ 500 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ขณะต่ำสุด 1,700 รอบต่อนาทีถึง 5,000 รอบต่อนาทีสำหรับทั้ง 2 รุ่น ส่งผลให้รถมีประสิทธิภาพการขับขี่ที่เป็นเลิศ ในขณะเดียวกันเมื่อเครื่องยนต์ทำงานเข้าสู่ความเร็วสูงสุดที่ 7,500 รอบต่อนาที จะผลิตความเร็วสูงสุดของเครื่องยนต์เทอร์โบออกมาได้อย่างเหนือชั้น พร้อมด้วยเสียงที่ดังกระหึ่มอีกด้วย

911 ใหม่ล่าสุดทุกรุ่นจะมาพร้อมกับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เช่น เครื่องยนต์ของรุ่นใหม่จะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นถึง 12% โดยอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลงถึง 1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร 911 คาร์เรร่า (Carrera) มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง PDK ซึ่งมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเพียง 7.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (13.51 กิโลเมตร/ลิตร) เพียงเท่านั้น ลดลง 0.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ในขณะที่รุน 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) พร้อมด้วย PDK จะมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 7.7 ลิตร/100 กิโลเมตร (12.99 กิโลเมตร/ลิตร) ลดลง 1 ลิตรต่อ 100 กิโลมตร

911 ใหม่ล่าสุด เพิ่มศักยภาพให้กับรถอย่างเต็มพิกัด โดย 911 คาร์เรร่า คูเป้ (911 Carrera Coupé) พร้อมด้วยระบบเกียร์ Porsche Doppelkupplung (PDK) และแพ็คเกจ Sport Chrono Package จะมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียงแค่ 4.2 วินาทีเท่านั้น ถือได้ว่าเร็วกว่าเดิมถึง 2 ใน 10 ของวินาทีเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม หากเป็นรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) พร้อมด้วย PDK และ Sport Chrono Package จะทำได้เพียง 3.9 วินาทีเท่านั้น (เร็วขึ้น 0.2 วินาที) ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ 911 ในตระกูล คาร์เรร่า Carrera สามารถทำเวลาได้ต่ำกว่า 4 วินาทีอีกด้วย อีกทั้งความเร็วสูงสุดของทั้ง 2 รุ่นเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดย 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) รุ่นใหม่นี้มีความเร็วสูงสุดที่ 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในขณะที่รุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) ทำได้ที่ 308 กิโลเมตร/ชั่วโมง
จุดเด่นที่เป็นมาตรฐาน: ระบบตัวถัง PASM ได้รับการปรับเปลี่ยนให้ความสูงลดลง 10 มิลลิเมตร

911 คาร์เรร่า (911 Carrera) สร้างมาตรฐานให้กับวงการรถสปอร์ตในเรื่องความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ได้อย่าง สง่างามในรถทุกรุ่น ปอร์เช่จะทำการพัฒนาความสมดุลระหว่างความสะดวกสบายในการขับขี่ประจำวันเข้ากับประสิทธิภาพเสมือนรถแข่งได้อย่างลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่นำตัวถัง PASM ใหม่ล่าสุด (Porsche Active Suspension Management) ที่สามารถลดความสูงของรถให้ต่ำอีก 10 มิลลิเมตร เป็นคุณสมบัติเด่นมาตรฐานสำหรับ คาร์เรร่า (Carrera) ทุกรุ่น โดยช่วยให้รถมีเสถียรภาพระหว่างเข้าโค้งด้วยความเร็วมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันโช้คอัพของรุ่นใหม่ล่าสุดมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของการกระจายและเพิ่มความสะดวกสบายได้มากกว่าเดิม ต้องขอบคุณการตอบสนองที่แม่นยำมากขึ้นรวมถึงการพัฒนาของตัวรถระหว่างการขับขี่ที่คล่องตัวสูง ล้อมาตรฐานแบบใหม่ล่าสุดจะมาพร้อมกับก้านล้อแบบเรียวยาวคู่ 5 ก้าน และยางที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ความกว้างของขอบล้อทางด้านหลังเพิ่มขึ้นอีก 0.5 ถึง 11.5 นิ้วและยางของ 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) จะมีขนาดที่ 305 จาก 295 มิลลิเมตร

image

ระบบ Active rear-axle steering สามารถเลือกติดตั้งเป็นระบบเสริมให้กับรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) ด้วยเทคโนโลยีตัวถังจากรุ่น 911 เทอร์โบ (911 Turbo) และ 911 จีที3 (911 GT3) เพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ในการเปลี่ยนช่องทางการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ขณะวิ่งในเมือง ซึ่งต้องขอบคุณต่อองศาการหมุนที่ลดลง 0.5 เมตร ความคล่องตัวต่างๆ จะถูกส่งต่อให้กับผู้ขับขี่ผ่านพวงมาลัยโฉมใหม่ซึ่งนำมาจากรุ่น 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) พวงมาลัยมาตรฐานมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 375 มิลลิเมตร หรือสามารถเลือกติดตั้งพวงมาลัยแบบ GTS Sports steering wheel ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 360 มิลลิเมตรได้ สำหรับการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ปอร์เช่จึงนำเสนอระบบ Hydraulic lift system ที่จะทำงานร่วมกับการยกระดับกระบอกสูบในท่อนยึด
ปีกนกด้านล่างของเพลาหน้า เพียงกดปุ่มระบบจะช่วยเพิ่ม Ground clearance ทางด้านหน้าอีก 40 มิลลิเมตร ภายในเวลา 5 วินาที ซึ่งจะช่วยป้องกันช่วงล่างและใต้ท้องรถจากการกระทบกับพื้น เช่น ตอนออกจากโรงรถเป็นต้น

ระบบ Porsche Communication Management ใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการค้นหาเส้นทางแบบออนไลน์

คุณลักษณะเด่นที่เป็นระบบมาตรฐานให้กับ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) ใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นคือระบบ Porsche Communication Management system (PCM) มาพร้อมกับการค้นหาเส้นทางแบบออนไลน์และการควบคุมการใช้งานด้วยเสียงหรือ Voice Control โดย PCM สามารถใช้งานผ่านระบบหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว คล้ายกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน ผู้ใช้งานสามารถเรียกใช้งานด้วยการเขียนได้

image
ระบบช่วยเหลือใหม่ล่าสุด

911 คาร์เรร่า (911 Carrera) พัฒนาให้มีความแม่นยำมากขึ้นตามความต้องการส่วนบุคคล ด้วยการเพิ่มระบบช่วยเหลือต่างๆ เข้าไป: ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (automatic speed control) สามารถช่วยเรื่องการเบรกได้อย่างมั่นคงเมื่อความเร็วเกินที่ตั้งค่าไว้ เช่น เมื่อขับลงเขา เป็นต้น ระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม มาพร้อมกับฟังก์ชั่น Coasting ที่ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ PDK เมื่อต้องขับขี่ในสถานการณ์รถติด คลัทซ์จะหยุดทำงานเพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ไม่สูญเสียพละกำลังเครื่องยนต์ อีกหนึ่งระบบเสริมที่สามารถเลือกติดตั้งได้คือระบบช่วยเหลือในการเปลี่ยนช่องทาง (lane change assistant) จะทำการตรวจสอบรถทางด้านหลังด้วยตัวจับสัญญาณและใช้ไฟ LED ทั้งด้านซ้ายและขวาเพื่อเป็นการเตือนผู้ขับขี่ให้ระวังรถที่อาจวิ่งเข้ามาในระยะจุดบอดได้ นอกจากนี้ปอร์เช่ยังเพิ่มความปลอดภัยสำหรับการใช้งานของรถสปอร์ตด้วยระบบหยุดวงจรไฟหรือเครื่องยนต์ที่เสียงต่อการเกิดไฟไหม้หรือความเสียหายหลังเกิดการชน (the post-collision braking system) มาเป็นคุณสมับติมาตรฐานให้กับรถ
911 คาร์เรร่า (911 Carrera): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 8.3-7.4 ลิตร/100 กิโลเมตร, (12.04-13.51 กิโลเมตร/ลิตร) วงจรขับขี่แบบในเมือง 11.7-9.9 ลิตร/100 กิโลเมตร (8.54-10.10 กิโลเมตร/ลิตร) วงจรขับขี่แบบนอกเมือง 6.3-6.0 ลิตร/100 กิโลเมตร (15.87-16.06 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) 190-169 กรัม/กิโลเมตร;

911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 8.7-7.7 ลิตร/100 กิโลเมตร, (11.50-12.98 กิโลเมตร/ลิตร) วงจรขับขี่แบบในเมือง 12.2-10.1 ลิตร/100 กิโลเมตร, (8.19-9.90 กิโลเมตร/ลิตร) วงจรขับขี่แบบนอกเมือง 6.6-6.4 ลิตร/100 กิโลเมตร; (15.15-15.62 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) 199-174 กรัม/กิโลเมตร;

911 คาร์เรร่า คาบริโอเลต (911 Carrera Cabriolet): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 8.5-7.5 ลิตร/100 กิโลเมตร, (11.76-13.33 กิโลเมตร/ลิตร) วงจรขับขี่แบบในเมือง 11.9-9.9 ลิตร/100 กิโลเมตร, (8.40-10.10 กิโลเมตร/ลิตร) วงจรขับขี่แบบนอกเมือง 6.5-6.2 ลิตร/100 กิดลเมตร; (15.38-16.12 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) 195-172 กรัม/กิโลเมตร;

911 คาร์เรร่า เอส คาบริโอเลต (911 Carrera S Cabriolet): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 8.8-7.8 ลิตร/100 กิโลเมตร, (11.36-12.82 กิโลเมตร/ลิตร) วงจรขับขี่แบบในเมือง 12.3-10.2 ลิตร/100 กิโลเมตร, (8.13-9.80 กิโลเมตร/ลิตร) วงจรขับขี่แบบนอกเมือง 6.7-6.5 ลิตร/100 กิโลเมตร, (14.92-15.38 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO2) 202-178 กรัม/กิโลเมตร;

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อก้าวเข้าสู่คำว่า AAS The Name you can Trust ความไว้วางใจที่ให้คุณได้มากกว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา กว่า 20 ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

RELATED ARTICLES
- Advertisment -




Most Popular

- Advertisment -




Recent Comments