Tuesday, October 3, 2023
Homeปุจฉาหาคำตอบฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยเดือนมกราคม 2555 นำเสนอตัวถัง 3 รูปแบบ  แบบซิงเกิ้ลแค็บ โอเพ่นแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ ตัวถังแต่ละแบบของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ล้วนมอบพื้นที่ใช้งาน อย่างกว้างขวางในระดับแถวหน้า เมื่อเทียบกับรถอื่นๆ ในระดับเดียวกัน พร้อมการขับเคลื่อนทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ รวมทั้งมีระดับความสูงให้เลือก 2 ระดับ โดยรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ไฮ-ไรเดอร์ ใช้โครงสร้างตัวถังเดียวกัน กับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ

“การเป็นรถกระบะคันแรก ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้กลยุทธ์แบบ One Ford ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับประโยชน์จากความรู้ความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของฟอร์ด ที่มีอยู่ทั่วโลก” มร. โจ ฮินริคส์ ประธานฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา กล่าว “ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถนำเสนอรถกระบะ ที่มีความเพียบพร้อมรอบด้านให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพ ความประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัย และเทคโนโลยีอันชาญฉลาด”

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ ที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อรถต้นแบบได้ผลิตขึ้นแล้ว ทีมวิศวกรได้จัดการทดสอบฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ อย่างเข้มข้นใน 15 ประเทศทั่วโลก เพื่อความมั่นใจว่า รถที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่นี้ จะมีความทนทานต่อสภาพถนนสุดโหด ในป่าของออสเตรเลีย มอบความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ที่นิยมความเร็วสูง บนทางด่วนของเยอรมนี และเป็นรถที่ ไว้วางใจได้ แม้จะต้องขับต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในเขตพื้นที่ราบแพมพา ของอาร์เจนติน่า

จากการทดสอบทั้งในประเทศออสเตรเลีย ดูไบ ประเทศไทย ในทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ประเทศสวีเดน และแอฟริกาใต้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ต้องฝ่าฟันทั้งอากาศที่ร้อนจัด หนาวจัด ถนนที่เปียกลื่นในช่วงฤดูฝน การขับบนภูเขาสูง ไปจนถึงการขับฝ่าแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ทะเลทรายอันแห้งผาก และถนนที่เป็นหลุมบ่อ รถต้นแบบของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ผ่านการเดินทางมาแล้วกว่า 1 ล้านกิโลเมตร ยังไม่รวมถึงการทดสอบอีกมากมาย ในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการผลิตขึ้นในประเทศไทย เพื่อวางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะที่โรงงานซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ ในประเทศแอฟริกาใต้ จะผลิตเพื่อวางจำหน่ายในประเทศ และส่งออก ไปยังทวีปยุโรป รวมทั้งประเทศเกิดใหม่ในทวีปแอฟริกา จากนั้น โรงงานในประเทศอาร์เจนติน่า จะเริ่มผลิต ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เพื่อจำหน่ายในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งจะทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการวางจำหน่ายใน 180 ประเทศทั่วโลก

ด้านหน้าของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีจุดเด่นที่ระยะยื่นหน้าสั้น พร้อมติดตั้งกระจังหน้าลาย 3 แถบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบระดับโลก ของรถกระบะภายใต้แบรนด์ฟอร์ด

กระจกบังลมหน้า ได้รับการออกแบบให้ทำมุมเอียงไปด้านหลังมากขึ้น เพิ่มความสปอร์ต และความ โฉบเฉี่ยวให้กับรูปทรงโดยรวม ไฟหน้าและกระจกหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมด้วยล้ออัลลอยแบบชิ้นเดียว ช่วยเสริมรูปลักษณ์ให้ลงตัวสำหรับทุกรุ่น และยังช่วยให้รถมีความดุดัน และให้ความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้น

สำหรับรุ่นตัวถังแบบซิงเกิ้ลแค็บ และโอเพ่นแค็บ มีขนาดพื้นที่บรรทุกของด้านหลังใหญ่ที่สุด 1.82 ลูกบาศก์เมตร และ 1.45 ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ขณะที่รุ่นดับเบิ้ลแค็บ มีขนาด ความจุอยู่ในระดับต้นๆ ของตลาดที่ 1.21 ลูกบาศก์เมตร

ด้วยความยาว 5,359 มิลลิเมตร และกว้าง 1,850 มิลลิเมตร ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จึงมีขนาดใหญ่กว่ารถ รุ่นปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ฟอร์ด เรนเจอร์ ยังคงเป็นรถที่ผู้ใช้งานสามารถขับขี่ไปบนถนนแคบๆ และบังคับ ทิศทางเพื่อเข้าจอดได้อย่างง่ายดาย จากระบบพวงมาลัย ที่มีระยะหมุน ไม่เกิน 3.5 รอบ

สำหรับรุ่นดับเบิ้ลแค็บ วิศวกรได้ย้ายเสากลางไปด้านหน้าเล็กน้อย ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่วาง ขา และระยะห่างจากหัวเข่าถึงเบาะหน้ากว้างที่สุด เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน แม้ว่าผู้โดยสารทั้งด้านหน้า และด้านหลังจะมีความสูงกว่า 180 เซนติเมตร

สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เฉพาะรุ่น ยังมีการต่อท่อแอร์เข้าไป เพื่อรักษาความเย็นของเครื่องดื่ม ซึ่ง สามารถจุได้มากถึง 6 กระป๋อง

สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ เฉพาะรุ่น มีการติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อการสื่อสาร ผ่านบลูทูธ ยูเอสบี และ ไอพอด รวมทั้งระบบควบคุมการสั่งการด้วยเสียง เพื่อสั่งงานวิทยุ ซีดี ไอพอด ยูเอสบี ระบบปรับอากาศ อัตโนมัติ และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขณะที่ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกการควบคุมฝั่งคนขับ และผู้โดยสารได้รับการติดตั้งในรุ่นสูงๆ

เครื่องยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่นที่เหมาะสำหรับการใช้งานในระดับราคาที่แตกต่างกัน สำหรับรุ่นสูงสุด คือ เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 5 สูบ ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ 3.2 ลิตร วีจี เทอร์โบ ให้แรงบิด 470 นิวตันเมตร และให้กำลัง 147 กิโลวัตต์ ให้ผลลัพธ์ด้านความประหยัดน้ำมันในระดับแถวหน้า ด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่ 8.4 ลิตร/100 กิโลเมตร (11.9 กิโลเมตร/ลิตร) ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ไปจนถึงอัตราสิ้นเปลืองที่ 9.6 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.4 กิโลเมตร/ลิตร) ในรุ่นสูงสุดคือรุ่นไวลด์แทรค แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

และยังมีเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ 2.2 ลิตร วีจี เทอร์โบ ให้แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร และให้กำลัง 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) โดยเมื่อติดตั้งในรุ่นตัวถังแบบธรรมดาที่ขับเคลื่อน 2 ล้อ  มีอัตราการใช้น้ำมันเฉลี่ยเพียง 7.6 ลิตร/100 กิโลเมตร (13.2 กิโลเมตร/ลิตร)

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ดูราเทค ขนาด 2.5 ลิตร iVCT ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกขั้นโดยให้แรงบิดที่ 226 นิวตันเมตร และให้กำลังที่ 122 กิโลวัตต์ (166 แรงม้า) ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ จะมีอัตราสิ้น เปลืองเฉลี่ยเพียง 9.8 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.2 กิโลเมตร/ลิตร)

ขนาดของถังน้ำมันที่สามารถจุได้ถึง 80 ลิตร ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเฉพาะรุ่น จึงมีแนวโน้มที่จะขับได้ระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ในการเติมน้ำมันแต่ละถัง เครื่องยนต์ทุกรุ่นของ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีอัตราการปล่อยมลภาวะ ในระดับเดียวกับมาตรฐานสูงสุดของประเทศไทย

ฟอร์ด เรนเจอร์ ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลจะมีตัวเลือกทั้งระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เพื่อช่วยลดรอบของเครื่องยนต์และช่วยให้ขับได้ ระยะทางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขับแบบทางไกลหรือการขับขี่ในเมือง ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ติดตั้งระบบส่งกำลัง เกียร์ธรรมดา 5 สปีด

ความสามารถในการลุยน้ำของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ โดยรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อและรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ไฮ-ไรเดอร์ สามารถลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร เมื่อบรรทุกน้ำหนักเต็มคัน นอกจากนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังสามารถบรรทุกน้ำหนักได้อย่างโดดเด่นหรือกว่า 1,400 กิโลกรัม ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อเฉพาะรุ่น และยังมีความสูงจากพื้นถึง 237 มิลลิเมตร (รุ่น 4×4 และ 4×2 ไฮ-ไรเดอร์)

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มอบสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโร้ดที่เหนือชั้น ด้วย ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบใหม่ เพลาขับล้อหลังที่ได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น และอัตราทดเกียร์โดยรวมที่ต่ำลง ชุดเกียร์ควบคุมด้วยระบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในรุ่นเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับขี่ สามารถเปลี่ยนจากการขับเคลื่อน 2 ล้อเป็นแบบ 4 ล้อได้ทุกเวลา (Shift on the fly) ด้วยปุ่มควบคุมบนคอนโซล

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เฉพาะรุ่น ได้รับการติดตั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของรถ ด้วยการควบคุมอัตราการหมุนของแต่ละล้อ เพื่อป้องกันการลื่นไถล ระบบนี้ ทำงานแตกต่างจากเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ด สลิป ทั่วไป เนื่องจากระบบสามารถลดปริมาณแรงบิด ของเครื่องยนต์ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ก่อนที่จะส่งแรงดังกล่าวไปยังแต่ละล้อ และสามารถเบรกล้อที่กำลังหมุน ให้หยุด ได้ทันที เพื่อให้แรงบิดจากเครื่องยนต์ถูกส่งไปยังล้อที่สามารถยึดเกาะถนนได้ดีที่สุด

พร้อมกันนี้ยังมีการติดตั้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี พร้อมระบบดิเฟอเรนเชียลล็อค แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic locking rear differential) (เฉพาะบางรุ่น) ที่ทำงานด้วยการล็อกการหมุนของล้อ ผ่านการล็อก เฟืองท้ายของล้อหลังทั้ง 2 ด้านทันทีที่พบว่ามีล้อข้างใดข้างหนึ่งหมุนฟรี หรือเมื่อพบว่าล้อหลังทั้ง 2 ด้าน มีความเร็วในการหมุนแตกต่างกัน

ระบบกันสะเทือนของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด คอยล์สปริงในระบบ กันสะเทือนใหม่สำหรับรุ่นขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อและ 4 ล้อ ได้รับการปรับจูนใหม่ ทำงานร่วมกับวาล์วแดมเปอร์ และสปริงอย่างเหมาะสมในแต่ละรุ่น ทั้งนี้ เพื่อชดเชยน้ำหนัก จุดศูนย์ถ่วง และการกระจายแรงขับที่แตกต่างกัน

ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียนใหม่ ได้รับการปรับจูนให้สามารถควบคุมการทำงาน ได้อย่าง สะดวกสบายเมื่อขับที่ความเร็วต่ำ และเพิ่มการตอบสนองให้ดียิ่งขึ้นเมื่อขับบนท้องถนน

ความเงียบภายในห้องโดยสาร นับว่าเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ซึ่งพบได้ ไม่บ่อยนักในรถกระบะทั่วไป นอกจากการผนึกส่วนเชื่อมต่อต่างๆ อย่างแน่นหนามากขึ้น และใช้ประตูที่หนา กว่าแล้ว ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงทั้งในประตู หลังคา และตัวถัง จึงมีระดับความเงียบ ลดความกระด้าง และการสั่นสะเทือนได้อย่างดีเยี่ยม

อุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบอีเอสพี และได้รับการบรรจุไว้ในฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นครั้งแรก ประกอบด้วย

  • Hill Descent Control ระบบควบคุมการขับลงเขาที่ช่วยเสริมแรงเบรกและลดความเร็วของรถ
  • Hill Launch Assist ช่วยให้รถออกตัวได้อย่างราบรื่นบนทางลาดชัน
  • Adaptive Load Control ช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาเสถียรภาพของรถได้แม้ในขณะบรรทุกน้ำหนักมาก
  • Emergency Brake Assist ช่วยเพิ่มแรงเบรกเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกฉุกเฉิน
  • Emergency Brake Light ส่งสัญญาณไฟเตือนรถคันอื่นๆ เมื่อผู้ขับขี่ลดระดับความเร็วกระทันหัน
  • Roll-over Mitigation เข้าแทรกแซงการทำงานเพื่อลดความเสี่ยงของการพลิกคว่ำ

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยปกป้องความปลอดภัยหลังเกิดการชนด้วย อาทิ ถุงลมนิรภัยตามจุดต่างๆ ของรถซึ่งแตกต่างกันในแต่ละรุ่น ม่านถุงลมนิรภัยได้รับการติดตั้งในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เฉพาะรุ่นเป็นครั้งแรก โดยถุงลมนิรภัยเหล่านี้จะถูกบรรจุไว้บริเวณขอบหลังคา เมื่อเกิดการชนจากด้านข้าง ถุงลมนิรภัยเหล่านี้จะพองตัวขึ้น เพื่อรองรับการกระแทกบริเวณศีรษะของผู้โดยสาร ที่นั่งอยู่ติดกับประตู โดยม่านถุงลมนิรภัย ได้รับการออกแบบมาให้ปกป้องผู้โดยสาร ทั้งแถวหน้าและหลัง โดยครอบคลุมทั้งส่วนที่ เป็นโครงสร้างตัวถังและส่วนที่เป็นกระจก จากบริเวณเสาหน้า (A-pillar) ไปจนถึงเสาหลัง (C-pillar) ของรถ

 

RELATED ARTICLES

10 COMMENTS

  1. รุ่น มีแค๊ปที่ไม่ช่าย 4 ประตูมี ออโต้ม๊ยครับ.

  2. ถ้าได้ของดีและถูกใจถึงจะนานผมก้รอคับ เพราะเรนเจอร์ตัวนี้ถือว่าล้ำกว่ารถกระบะทั่วไปมากมายทีเดว

    • มันจิงเหรอเพ่… อาจจะมีอะไรที่ร้ำและเร้าจายมากกว่าก้อได้นะ

    • 5555ถ้าเรื่องรถกระบะตอนเน้ผมว่าไม่มีใครเกินเรนเจอร์แต่ถ้าความเร้าใจผมก้ไม่เปงรองหน่า5555555

Comments are closed.

- Advertisment -




Most Popular

- Advertisment -




Recent Comments