ครับ ประโยคนี้น่าจะเหมาะสมกันสถานการของรถมิตซูบิชิ ไทรทันเวลานี้ เพราะหลังจากที่เปิดตัวต่อสายตาชาวโลก ก็มีเสียงวิจารณ์ออกมาจำนวนมากในเรื่องของการออกแบบทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร แต่อย่าเพิ่งตัดสินใจถ้าคุณยังไม่ได้ลองขับจริงๆ เพราะอะไรถึงพูดแบบนี้ ลองตามมาครับ
หน้าตาของไทรทันถูกออกแบบมาให้บึกบึน สมกับเป็นรถกระบะเพื่อการใช้งานที่สมบุกสมบัน ความต่อเนื่องของระบบส่งกำลัง กับเครื่องยนต์ ความประหยัดเชื้อเพลิง และสุดท้ายคือความนุ่มนวลของระบบกันสะเทือน และทั้งหมดนี้จะถูกใช้สำหรับขายปทั่วโลกอีกด้วย
กระจังหน้าเหลี่ยมๆ จัดคู่กับชุดไฟหน้าซ้าย/ขวา ชุดไฟหน้าจะให้หลอด LED สว่าสดใสเวลาค่ำคืน และมีเดย์ไลท์เป็นแนวเรียงด้านบนสุด ออกแบบให้รับกับฝากระโปรง และแนวคิ้วของบังโคลนได้ลงตัว ตัวรถจะแน่นความเรียบง่าย ให้อารมณ์เป็นรถลุยๆ มีเส้นสายไม่มาก
ชุดไฟท้ายออกบบให้มีความชัดเจน สามารถมองเห็นได้หลายมุม ที่ฝาท้ายยังเสริมขอบไใ้เพื่อช่วยการบรรทุกสัมภาระที่มีความยาวได้ง่าย และยังปลอดภัย ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารสามารถเข้าและออกจากตัวรถได้ง่ายขึ้น จากบันไดข้างที่ติดตั้งมาให้
โดยตัวรถมิตซูบิชิ ไทรทัน นี้จะมีความยาวตัวรถเท่ากับ 5,320 มม. วามกว้างตัวรถ 1,865 มม.(ไม่รวมกระจกมองข้าง) ระยะความยาวฐานล้อ 3,130มม.และความกว้างฐานล้ออยู่ที่ หน้า 1,570 มม.หลัง 1,565มม. พื้นที่ของกระบะกว้างสุด 1,545มม.ยาวสุด 1,555มม.(รุ่น 4 ประตู)
ภายในห้องโดยสาร จะมีความร่วมสมัยอยู่พอสมควร พวงมาลัยแบบ 3 ก้านขนาดกำลังดี จับกระชับมือ พร้อมปุ่มมัลติฟังชั่นควบคุมการทำงานของวิทยุ หน้าปัทม์ยังคงเลือกใช้แบบเข็มทั้งส่วนของวัดรอบเครื่องยนต์ และส่วนแสดงความเร็วโดยช่องว่างตรงกลาง จะเป็นจอแสดงผลของอัตราความสิ้นเปลือง ตำแหน่งเกียร์ เป็นต้น
คอนโซลหน้า จะมีจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว ติดตั้งมาให้โดยจะมีแผนที่ วิทยุ และโทรศัพท์เป็นหลัก ชุดควบคุมระบปรับอากาศ ใช้แบบกึ่งดิจิตอล แยกอุณหภูมิซ้าย/ขวา และจะมีปุ่มปรับแรงลมรวมถึงการปรับอื่นๆขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจน โดยไม่ต้องทำงานผ่านจอให้ยุ่งยาก การกระจายลมเย็นภายในห้องโดยสารทางด้านหลังจะมีลมเป่าจากช่องบนเพดานที่ดึงอากาศเย็นจากด้านหน้าเป่าไปทางด้านหลังได้อย่างทั่วถึง
เกียร์ออโตเมติกของไทรทัน ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน แค่เลื่อนให้ตรงตำแหน่งเท่านั้น กำลังจากเครื่องยนต์ก็ส่งผ่านเกียร์ถึงล้อไปแล้ว แต่ความรู้สึกที่เรายังติดอยู่คือ คันเกียร์เวลาดึงหรือเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์นั้น มันจะหนืดๆ ไม่คล่องตัวเหมือนที่ควรจะเป็น (ความรู้สึกของผู้เขียน) เบาะนั่งทรงกระชับตัว เลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดความร้อนสะสมได้ดี ทำให้เมื่อเราต้องจอดรถไว้กลางแดด เบาะนั่งจะไม่ร้อนเหมือนรถทั่วไป สำหรับผู้โดยสารด้านหลังจะมีการออกแบบไว้สำหรับให้นั่งได้ 3 คน โดยการเพิ่มหมอนพิงมาให้ตรงกลาง ซึ่งด้านหนึ่งมันก็ดีแหละที่ผู้โดยสารจะนั่งได้สบายขึ้น แต่ในมุมของผู้ขับขี่ หมดพิงตรงกลาง คือจุดบอดที่บดบังทัศนะวิสัยด้านหลังไปเกือบ 100%
เครื่องยนต์ของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เจน 4.5 โดยเสื้อสูบและฝาสูบจะทำจากอลูมินัมอัลลอย น้ำหนักเบา เพิ่มความทนทานด้วยการออกแบบให้ใช้โซ่ไทม์มิ่ง เพิ่มกำลังด้วยเทอร์โบแปรผัน VG Turbo ให้กำลังออกมาสูงสุดที่ 184 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 430 นิวตัน/เมตรที่ 2,250-2,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังจะเป็นเกียร์ออโตเมติก 6 สปีด ส่งกำลังได้นุ่มนวล
กันสะเทือนหนัาจะได้เป็นอิสระ ปีกนก 2 ชั่น ส่วนด้านหลังแน่นอนว่าจะเป็นแบบแหนบแผ่นซ้อน ซึ่งเมื่อใช้งานตัวเปล่าวิ่งถนนดำ ช่วงล่างชุดนี้ก็จัดว่านุ่มพอใช้ และอาจจะไม่ถูกใจสายความเร็วสักเท่าไร ล้อและยางก็จะได้มาเป็นขอบ18 นิ้ว ลาย 12 ก้าน
สำหรับระบบความปลอดภัย ถุงลม7 ตำแหน่ง พร้อมปกป้องทุกคนในรถ ระบบ ABS ป้องกันล้อล๊อค และระบบ EBD ช่วยกระจายแรงดันน้ำมันเบรค เสริมด้วยระบบช่วยเบรคที่จะช่วยเพิ้มแรงกดเบรคให้เมื่เราออกแรงกดอย่างต่อเนื่อง
อาการของรถที่ได้ขับ
ห้องโดยสาร จัดว่าเงียบ เก็บเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี การจัดวางตำแหน่งของอุปกรณ์และปุ่มกดต่างๆ อยู่ในระยะเอื้อมถึง แทบจะไม่ต้องละสายตาออกจากถนน ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้ปุ่มกดขนาดใหญ่ที่ให้มา อาการตอบสนองของเครื่องยนต์มีหน่วงนิดๆ เมื่อเรากดคันเร่งแบบสุดทีเดียว (อาการเดียวกับรถทั่วไปในปัจจุบัน) พวงมาลัยแม่นยำ วงเลี้ยวแคบ ควบคุมง่าย ความเร็วเดินทาง 100-120 สามารถขึ้นไปถึงได้ง่ายๆ แต่อย่าเพลิน มันจะเกินขึ้นไปแบบไม่ทุนรู้ตัว
และด้วยเหตุผลของการควบคุมมลพิษ ทำให้ต้องติดตั้งระบบดับเครื่องยนต์เมื่อจอด ซึ่งเอาเข้าจริง อันตรายพอสมควรเมื่ออยู่ในสถานการณ์จริง เพราะเครื่องยนต์ดีเซลแตกต่างจากเครื่องยนต์เบนซิน เพราะเมื่อสตาร์ทติดขึ้นมาแล้ว มันไม่สามารถเร่งออกตัวได้ทันที
สิ่งที่ผู้เขียนเจอคือ วิ่งเข้าไปจุดกลับรถ พอเหยีบเบรคให้รถจอดสนิท เครื่องยนต์ดับทันที แล้วจังหวะนั้น เราจะออกตัวเพื่อกลับรถ ปล่อยเบรค หมุนพวงมาลัย กดคันเร่ง แต่ทุกอย่างมันไม่ตอบสนอง จนกว่าเครื่องยนต์จะทำงาน ซึ่งเวลาที่เสียไปอาจจะดูไม่มาก แต่กับเงื่อนไขของการกลับรถบนทางหลวงที่มีรถวิ่งตลอดเวลา ทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้นมาทันที แต่เราก็สามารถกดยกเลิกการทำงานตรงจุดนี้ได้เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนั้น เมื่อขึ้นขับ ผู้เขียนก็จะกดยกเลิกระบบนี้ทันที
เรื่องทัศนะวิสัยของตัวรถ จัดว่าดี (ยกเว้นเมื่อมองผ่านกระจกหลัง) เราสามารถมองด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง (ผ่านกระจกข้าง)ได้พื้นที่กว้างครับ มุมอับน้อย
ส่วนอัตราเร่งของไทรทัน ออกมาให้แบบขึ้นเรื่อยๆ ไม่ฉูดฉาด แต่เร็วแบบเนียน ๆ ซึ่งจุดนี้เองที่จะทำให้เราใช้ความเร็วเกินโดยไม่ทันระวัง ตัวเลขที่ได้ในการใช้งานวิ่งทางยาวๆ กรุงเทพ-ปากช่อง สามารถทำได้ที่ 15 กม./ลิตร ซึ่งนับว่าไม่เลวเลย ส่วนในเมือง สภาพการจราจรไม่หนาแน่น ตัวเลขอยู่ที่ 10 กม./ลิตร และจะต่ำลงเมื่อต้องฝ่าเข้าตัวเมืองชั้นในที่รถติดมากขึ้น
โดยรวมแล้ว มิตซูบิชิ ไทรทันใหม่ เรื่องหน้าตา ก็อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนว่าจะถูกใจมากน้อยกันขนาดไหน แต่ส่วนตัวผู้เขียนแล้วก็okอยู่ เรื่องของสมรรถนะโดยรวมสิ คือประเด็นสำคัญของรถคันนี้ เพราะถ้าจะว่ากันตามตรงแล้ว รถได้เรื่องความประหยัด เครื่องยนต์เงียบ เร่งดี ห้องโดยสารดูไม่ทันสมัยสักเท่าไร ช่วงล่างควรจะแน่นกว่านี้ ซึ่งเมื่อเอาทุกอย่างมาผสมรวมกัน ในส่วนของผู้เขียนคือกลางๆ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่เด่นขึ้นมาแบบชัดเจนครับ แต่อย่างที่กล่าวไว้ช่วงต้นๆว่า ต้องได้ลองสัมผัสได้ลองขับกันดูก่อน ค่อยตัดสินใจ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย ทีมประชาสัมพันธ์ทุกท่านที่อำนวยความสะดวกตลอดมาครับ