ในตลาดรถกระบะ ชื่อชั้นของมิตซูบิชิ ได้รับการพิสูจน์จากผู้ใช้มานับตั้งแต่ L200 อันโด่งดัง ไล่มาถึงไทรทัน รุ่นล่าสุดที่ได้รับอิทธิพลการออกแบบมาจากรุ่นพี่อย่าง”ปาเจโร” แต่สิ่งที่มิตซูบิชิ ไทรทันเป็นคือรถกระบะเอนกประสงค์ที่ตอบโจท์ยการใช้งานได้อย่างแท้จริง
หน้าตาหล่อเกินเป็นรถกระบะ
มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ 4×4 มีความเฉียบคมจากการออกแบบให้มีความเป็นสปอร์ทมากกว่าจะเป็นรถกระบะใช้งาน ด้วยดีไซน์แห่งอนาคต Advanced Dynamic Shield Design คอนเซ็ปต์การออกแบบด้านหน้ารถอันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ ให้แนวกระจังหน้าขนาดใหญ่ แบ่งเป๋น 2 ชั้น อย่างชัดเจน สอดรับกับแนวเส้นโครเมี่ยมที่ไล่ตามแนวลงมาจากขอบไฟหน้าโอบไฟตัดหมอกไว้ เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถได้มาก ชุดไฟตัดหมอกขนาดใหญ่สว่างชัดเจนเมื่อต้องใช้ในเวลาค่ำคืน
แผ่นกันห้องเครื่องปั๊มขึ้นรูป ดูบึกบึน สมกับเป็นรถลุย ทั้งยังช่วยปกป้องอ่างน้ำมันเครื่องจากสิ่งกีดขวางเมื่อต้องลงไปลุย บันไดข้างยาวเต็ม ช่วยให้การขึ้นลงรถเป็นไปอย่างสะดวกยิ่งขึ้น ด้านหลังสุดเซ็กซี่จากแนวเส้นข้างตัวถังที่เน้นขอบโป่งล้อและแนวขอบกระบะที่ไล่ยาวจากขอบฝากระโปรงหน้า พร้อมปิดแนวด้วยชุดไฟท้ายขนาดใหญ่ กรอบใส มองสะอาดตา เพิ่มเติมความโดดเด่นด้วยสปอยเลอร์ที่ขอบฝาท้าย(วางของจุกจิกเล็กเมื่อจอดได้) พร้อมไฟเบรคดวงที่สามและกันชนขนาดใหญ่เพิ่มความปลอดภัย
ห้องโดยสารเรียบหรู เน้นใช้งาน
การออกแบบห้องโดยสารโทนสีเข้ม ดุดัน พร้อมพื้นที่ที่กว้างขึ้นกว่าเดิม เบาะนั่งโอบกระชับรับกับทุกสรีระ พร้อมระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารตอนหลัง ภายในใช้วัสดุเก็บเสียงและวัสดุกันสะเทือน เพื่อความสมบูรณ์แบบในการขับขี่อย่างแท้จริง
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย (Cruise Control)ลดความเมื่อยล้าเมื่อขับขี่ทางไกลระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย (Paddle Shift)เพื่อสมรรถนะ และการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น
เบาะนั่งหุ้มหนังเน้นโทนดำล้วน หน้าเบาะเป็นหนังรูเพื่อช่วยระบายความร้อน คอนโซลดำเล่นเส้นสายเพื่อลดการสะท้อนแสง ชุดวิทยุและสวิทช์ควบคุมแอร์ตัดขอบด้วยสีเงินทำให้ดูมีมิติเพิ่มขึ้น ชุดเครื่องเสียงจัดชุดเป็นจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ และยังเป็นกล้องมองหลังขณะถอย คันเกียร์หุ้มหนังดำเล่นตะเข็บด้ายจับกระชับมือ โดยมีปุ่มหมุนปรับระบบขับเคลื่อนอยู่ถัดออกมาข้างเบรคมือ เบาะแถวหลังจัดตำแหน่งให้นั่งสบาย มีระยะห่างช่วงขามากเพียงพอ เดินทางไกลได้ไม่เมื้อยล้าแน่นอน
เครื่องยนต์ไมเวค คลีน ดีเซล 2.4 ลิตร 181 แรงม้า
MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control) ลิขสิทธิ์เฉพาะจากมิตซูบิชิ กับระบบควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดีแปรผัน ทำงานสอดคล้องกับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ ควบคุมการทำงานด้วยสมองกลอัจฉริยะ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำและได้แรงม้ามากขึ้นในรอบสูง อัตราเร่งดี ช่วยให้การเผาไหม้หมดจด ลดมลพิษในอากาศ สร้างชื่อเสียงโด่งดังมานาน
เสียงเครื่องยนต์ราบลื่น ส่งกำลังผ่านเกียร์ออกโตเมติก 6 สปีด พร้อมลุยไปให้สุดกับชุดขับเคลื่อน 4 ล้อที่แบ่งถ่ายกำลังได้ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อสำหรับวิ่งใช้งานทั่วไป
ระบบขับเคลื่อน 4 H ทำงานตลอดเวลา แบ่งกำลังออกเป็นหน้า 40% หลัง 60% เมื่อวิ่งบนนถนนแห้ง และจะปรับเป็น 50%กับ50% เมื่อวิ่งบนถนนเปียกลื่น
ระบบขับเคลื่อน 4HLc จะเป็นการแบ่งกำลังขับเคลื่อน 50%กับ50% โดยจะมีระบบดิฟล๊อคเพลา เหมาะสำหรับการใช้งานบนเส้นทางขรุขระ (ไม่แนะนำให้ใช้บนถนนแห้ง)
ระบบขับเคลื่อน 4LLc จะเป็นการแบ่งกำลังขับเคลื่อน 50%กับ50% พร้อมระบบดิฟล๊อคเพลาอัตราทดสูง ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ในอัตราส่วนที่เท่ากัน เพื่อให้มีกำลังในการขับเคลื่อนให้สูงขึ้น (ห้ามใช้ความเร็วเกิน 70กม./ชม.) เหมาะกับเส้นทางลาดชัน ทุระกันดาน แม้แต่ทางโคลน
ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบปีกนก 2 ชั้นคอยส์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ เพื่อให้เกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ระบบกันสะเทือนหลัง แบบแหนบแผ่นซ้อนติดตั้งเหนือเสื้อเพลา พร้อมโช้คอัพไขว้ขนาดใหญ่ ออกแบบจุดยึด และปรับตั้งแหนบใหม่ ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลและยึดเกาะถนนดีขึ้น
ล้อที่ให้มาจะเป็นบริสโตน ดูอัลเลอร์ H/T ขนาด 265/60R18 ดอกยางเอนกประสงค์ ที่ใช้งานได้คลอบคลุมทั้งถนนดำและลุยทางฝุ่น
ทดลองขับกันยาวๆ
ปิดประตูแล้วกดปุ่มสตาร์ท เสียงเครื่องยนต์นุ่มๆ ดังขึ้นมาพอให้ได้ยิน ตัวรถแทบจะไม่มีอาการสันจากเครื่องยนต์ ดึงเกียร์เข้าตำแหน่ง D รถพร้อมออกตัว เมื่อพร้อมการเดินทางก็เริ่มต้น พวงมาลัยให้น้ำหนักมากเมื่อขับในเมือง และด้วยตัวรถที่ใหญ่ แรกๆจะรู้สึกว่าไม่สะดวก แต่เมื่อขับไปสักระยะพอได้คุ้นชินแล้ว ความรู้สึกนั้นก็จะหายไปครับ อัตราเร่งมาเร็วเมื่อเราต้องการไม่มีรีรอใดๆ ทั้งสิ้น ทัศนวิสัยรอบคันจัดว่าไม่อึกอัด มองเห็นได้รอบตัว ระยะทางทีเพิ่มขึ้น ช่วยให้ความคุ้นเคยกับรถมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ที่ความเร็วเดินทาง ช่วงล่างที่เซ็ตมา ลงตัวมาก ไม่มีโดดไม่มีดิ้น เกาะโค้งเกินความเป็นกระบะ
ระบบช่วยเหลือที่ติดตั้งมาให้ พร้อมทำงานตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเตือนรถมาด้านข้างซึ่งเป็นระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน โดยระบบจะตรวจจับรถคันอื่นที่วิ่งอยู่ในเลนถัดไปทางด้านหลัง ในระยะประมาณ 70 ม. และส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตา ซึ่งอาจไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง และในขณะเดียวกันหากเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งเสียงเตือน พร้อมสัญญาณไฟกะพริบบนกระจกมองข้าง เพื่อความปลอดภัยในการเปลี่ยนช่องจราจร ทั้งนี้ การทำงานของระบบขึ้นอยู่กับความเร็วสัมพัทธ์ระหว่างรถกับรถในเลนถัดไป เตือนรถเปลี่ยนช่องทาง
ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ระบบจะทำงานโดยใช้เรดาร์ประเมินระยะห่างจากรถหรือคนเดินถนนข้างหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้า หรือคนเดินถนนในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และบรรเทาความเสียหายจากการชน
ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง และรวดเร็ว ระบบทำงานโดยใช้คลื่น Ultrasonic ตรวจจับวัตถุด้านหน้า หรือด้านหลังในระยะไม่เกิน 4 เมตร ในขณะที่เกียร์อยู่ตำแหน่ง “D” หรือ “R” หากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรง และรวดเร็ว ระบบจะทำการตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติ และทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 10 กม./ชม. เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการชน
ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด ในขณะที่รถกำลังถอยหลัง หากเซนเซอร์ด้านหลังตรวจพบรถคันอื่นเข้ามาภายในรัศมีการตรวจจับ ระบบจะส่งเสียงเตือนและสัญญาณไฟกะพริบบนกระจกมองข้างทั้ง 2 ด้าน พร้อมแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอแสดงผล
กล้องมองภาพรอบคัน ระบบทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพได้รอบคัน เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการจอดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบจะช่วยควบคุมการทรงตัวของรถ ในสภาวะที่รถเสียสมดุล เพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง เช่น เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ถนนลื่น หรือหักหลบกะทันหัน
อ่างเก็บน้ำบางพระคือจุดหมายปลายทาง เส้นทางลุยเล็กๆ มีให้ลองเล่นพอสนุกสนาน โดยตลอดการเดินทาง เราได้ทดลองระบบต่างๆ จากระยะการเดินทางกับสมรรถนะของรถ ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยล้า เราลองเช็คอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย จะอยู่ที่ประมาณ 13 กม./ลิตร ตัวเลขอาจจะดูว่ามาก แต่เมื่อคิดสัดส่วนของการขับขี่ที่อยู่ในเมืองมา 1 วันเต็ม ถึงได้ขับเดินทางไกลที่ใช้รอบนิ่งๆ ไม่ถึง 2,500 รอบต่อนาที
สรุปการทดลองขับ 3 วัน ใช้งานในเมืองซะ 2 วัน ไปอ่างเก็บน้ำบางพระ 1 วัน เริ่มคุ้นเคยกับอาการต่างๆ ของรถ กำลังของเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 181 แรงม้า ตอบสนองต่อคันเร่งได้อย่างรวดเร็ว ห้องโดยสารแทบจะไม่ต้องปรับตัว ผลจากการออกแบบได้ลงตัว ช่วงล่างนั่งสบายกว่ารถเก๋งบางรุ่นซะอีก ไม่ดีดไม่ดิ้นของแท้ ยางใหญ่ ดอกไม่ลึก เดินทางได้ดี ลุยเล็กๆ ถึงปานกลาง หากจะหนักๆ แบบโหดจัด ต้องเปลี่ยนยางจะเหมาะสมกว่า อัตราสิ้นเปลืองไม่ถือว่ากินมากมาย เหมาะสมกับกำลังและความสนุกที่ได้มาครับ
สำหรับท่านที่มองหากระบะหน้าตาโฉบเฉี่ยว สมรรถนะแน่นๆ ราคาไม่แรง มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ 4×4 ดูจะเป็นตัวเลือกที่สนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
สุดท้ายต้องขอขอบคุณ มิตซูบิชิมอเตอร์ ประเทศไทย และทีมประชาสัมพันธ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่อำนวยความสะดวกจัดรถเพื่อนำมาทดลองขับในครั้งนี้