มินิ ประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษ MINI Track Day พาลูกค้าและสื่อมวลชนทั้งสาย ยานยนต์และไลฟ์สไตล์ สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานในแบบฉบับมินิ ณ สนามแข่งรถ แก่งกระจานเซอร์กิต จ.เพชรบุรี ให้ทุกท่านได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นของรถยนต์มินิหลากหลายรุ่น บนสนามแข่งสุดท้าทายที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย พร้อมเปิดประสบการณ์ การขับขี่ครั้งใหม่ในรถยนต์มินิ คลับแมน และ มินิ คอนเวอร์ทิเบิล
คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “เพื่อต่อยอดความสำเร็จของมินิในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์คอมแพคหรูของเมืองไทย เราจึงจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับ อีกด้านของประสบการณ์การขับขี่แบบมินิ เพราะนอกเหนือจากดีไซน์อันโดดเด่นที่เติมเต็มทุกอารมณ์แล้ว มินิทุกคันยังมีสมรรถนะและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยมเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย”
งานนี้ autofreestyle ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมกิจกรรมสนุกแบบนี้ โดยขบวนมินิกว่าสิบคันเดินทางฝ่าการจราจรที่คับคั่งออกจากกรุงเทพมหานครในตอนสายๆ อากาศดีแดดแรง การเดินทางเป็นไปในรูปแบบ”ฟรีรัน”คือให้วิ่งกันได้ตามสะดวก ไปเจอกันที่จุดนัดพบเท่านั้น เพื่อตั้งขบวนอีกครั้งก่อนว่างเข้าสู่งสนามแก่งกระจานเซอร์กิต
หลังจากฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับตัวรถและรูปแบบการทดลองขับ ซึ่งจะเป็นการขับตามคันนำ กลุ่มละ 5 คัน ใช้ความเร็วพอสมควรเรียกว่าเกืบเต็มที่ของสมรรถนะของรถมินิกันเลยทีเดียว โดยในแต่คนจะได้ขับครบทุกรุ่น คันละ 2 รอบสนาม ใส่กันได้เต็มๆ ภายใต้ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวคือ ห้ามแซง และขอให้ตามคันข้างหน้าให้ทัน ความมันจึงบังเกิด เพราะรถมินิทุกรุ่น มีสมรรถนะเพียงพอที่จะลงสนามแข่งได้อยู่แล้วนั่นเอง
หลังจากเสร็จสิ้นการทดลองขับแล้วทำให้ความคิดและความเข้าใจของเราเปลี่ยนไปพอสมควร จากเมื่อก่อนที่คิดว่ารถมินิคันเล็กๆ เครื่องไม่ใหญ่ คงจะมีไว้ให้หนุ่มๆ สาวๆ ซื้อหามาแค่ขับเล่น สมรรุนะคงจะแค่พอสนุกเท่านั้น แต่นับจากนาทีที่ก้าวขาลงจากรถเท่านั้น เราอยากจะบอกว่าถ้าคุณต้องการรถยนต์ที่คล่องตัวในเมือง เรียกสมรรถนะได้เต็มที่เมื่อต้องการ ปลอดภัย และขับสนุกมากแล้ว “ไม่ควรมองข้ามรถมินิอีกต่อไป”
มินิ คอนเวอร์ทิเบิลรุ่นใหม่ล่าสุด
มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวอร์ทิเบิล ราคา: 3,050,000 บาท (ราคารวม VAT)
มินิ คอนเวอร์ทิเบิล ใหม่ เป็นรถเปิดประทุนสปอร์ล้ำสมัยและคงความสนุกในการขับขี่แบบโกคาร์ท พร้อมคอนเซ็ปต์ “STAY OPEN” ดีไซน์โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน มิติรถที่เพิ่มขึ้น พร้อมพื้นที่ภายใน ตัวรถกว้างขวางขึ้นเช่นเดียวกับมิติภายนอก เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน
มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวอร์ทิเบิล ให้สมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ MINI TwinPower Turbo ให้ประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า มีอัตราความเร็วสูงสุด 228 กิโลเมตรต่อ ชม. และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.1 วินาที เพื่อความรื่นรมย์ในยามขับขี่แบบเปิดประทุนตามสไตล์มินิ แผงหลังคารถหรือซอฟต์ท็อปผลิตจากวัสดุผ้าทอพิเศษ ด้วยวัสดุป้องเสียงหลายชั้น ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก มาพร้อมกับดีไซน์ลายธง UNION JACK ที่เป็นเอกลักษณ์ของมินิ ซึ่งสามารถเปิดและปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าภายในเวลาเพียง 20 วินาที และในขณะที่รถวิ่งอยู่ด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่ต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ที่คุณสามารถกดเลือกได้ MINI HEAD-UP DISPLAY ที่สามารถเปิดปิดเพื่อแสดงข้อมูลสำคัญบนคอนโซลหน้าช่วยให้คนขับไม่ต้องละสายตาในขณะขับขี่ ปุ่มควบคุมความบันเทิง MINI Controller ที่ทำงานสามารถทำงานด้วยระบบสัมผัส หน้าจอแสดงผลคอนโซลกลางขนาด8.8 นิ้ว โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี LED ใหม่ล่าสุดที่ให้แสงไฟสีสันต่างๆ รอบวงแหวนซึ่งสามารถเปลี่ยนตามฟังก์ชั่นการใช้งาน นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอป MINI Connected XL Journey Mate บนสมาร์ทโฟนทำการเชื่อมต่อกับตัวรถเพื่อใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนฝนตกขณะเปิดประทุน การบอกตำแหน่งจุดจอดรถล่าสุด และอื่นๆ อีกมากมาย
มินิ คลับแมน ใหญ่ที่สุดในตระกูลมินิ
มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน ไฮทริม ราคา: 3,288,000 บาท (ราคารวม VAT)
ด้วยความยาวที่เพิ่มขึ้น 27 เซนติเมตร กว้างขึ้น 9 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 10 เซนติเมตรเมื่อเทียบกับรถยนต์มินิ แฮทช์ 5 ประตู มินิ คลับแมน โฉมใหม่ จึงเป็นรถยนต์มินิที่มีขนาดใหญ่ที่สุด พร้อมตอบรับทุกการใช้งานด้วยช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุมากถึง 360 ลิตร และยังสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,250 ลิตร เมื่อทำการพับเบาะที่นั่งหลังซึ่งแยกกันที่ 60:40 ส่วนฝากระโปรงท้ายแบบบานพับ สองข้างใช้วัสดุโลหะที่โดดเด่นสะดุดตา เป็นอีกจุดเด่นชวนมองในส่วนท้ายของ มินิ คลับแมน โฉมใหม่ เสากลางระหว่างบานกระจกซ้าย-ขวามีขนาดเล็กลงกว่าในรุ่นก่อนหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองด้านหลังให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังสะดวกสบายด้วยการเปิดประตูแบบไม่ต้องสัมผัส เพียงใช้เท้าจ่อบริเวณใต้ กันชนท้ายเมื่อมีกุญแจรถอยู่กับตัวเท่านั้น
มินิ คลับแมน ขับเคลื่อนด้วยพลังของเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 3 รุ่น โดยขุมกำลังของมินิรุ่นนี้ ประกอบด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ให้อารมณ์ในการขับขี่แบบโกคาร์ทโดยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้านต่างๆ ที่ดียิ่งขึ้น
https://youtu.be/aj2_WiaJSLo
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ เต็มพลัง ส่งตรงจากสนามแข่ง
ราคา: 3,450,000 บาท (ราคารวม VAT)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ผสมผสานความเร้าใจจากสนามแข่งกับความหรูหรา ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นแต่ยังคงเอกลักษณ์สุดคลาสสิกไว้อย่างครบครัน ต่อยอดจากรถยนต์ต้นแบบเพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ในระดับรถแข่งพันธุ์แท้
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ มาพร้อมกับที่สุดแห่งขุมพลังสปอร์ต กับเครื่องยนต์ 4 สูบที่ติดตั้งแบบ transverse พร้อมอัพเกรดระบบส่งกำลังให้ทำงานราบรื่นด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ให้คุณขับขี่ได้คล่องตัว รวดเร็ว พร้อมท้าทายทุกสนามแข่ง ขุมพลังใหม่ของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่มินิเคยนำออกมาทำตลาด โดยมีกำลังสูงสุดถึง 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า
นอกจากนี้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ยังมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครด้วย พร้อมคอนเทนต์พิเศษในรุ่นนี้เฉพาะ หลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Chili Red ล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบา จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ขนาด 18 นิ้ว และแถบสีแต่งกระโปรงรถลายจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ส่วนระบบช่วงล่างทำงานสอดประสานกับเครื่องยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่ไปกับเบรกระดับสปอร์ตรุ่นใหม่จากเบรมโบ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ เซอร์โว ทรอนิก ที่ใช้ทั้งระบบไฟฟ้าและกลไกผสมผสานกัน และเทคโนโลยี Dynamic Stability Control ที่มีทั้งคุณสมบัติ Dynamic Traction Control (DTC) Electronic Differential Lock Control (EDLC) และ Dynamic Damper Control ติดตั้งมาในตัวเป็นมาตรฐาน
มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน
ราคา: 2,590,000 บาท (ราคารวม VAT)
มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน เป็นรุ่นที่สามของมินิรุ่นไฮเอนด์สุดคลาสสิกที่เปี่ยมความหรูหรา พร้อมจับทุกสายตาด้วยดีไซน์และสีสันพิเศษสุดเฉพาะตัว ตัวถังสีเทาเมทัลลิก Earl Grey จับคู่กับหลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Oak Red พร้อมแต่งด้วยแถบสีสไตล์สปอร์ตในสีเดียวกับกระโปรงรถ กันชนท้าย และส่วนข้างตัวรถ ขณะที่ไฟเลี้ยวติดตั้งในกรอบชุบโครเมียมที่แต่งด้วยสีแดง Oak Red เช่นกัน นอกจากนี้ ตัวรถยังเสริมความสปอร์ตด้วยล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วสีเทาในดีไซน์ Turbo Fan Dark Grey พร้อมตกแต่งรอบตัวถังด้วยชิ้นส่วนกันชนและขอบประตูสีเงินในชุดแต่ง MINI ALL4 Exterior
มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล MINI TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งผลิตจากอลูมิเนียมทั้งบล็อก มอบกำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 305 นิวตันเมตร
มินิ แฮทช์ 3 ประตู
มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู พร้อมชุดแต่งจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ราคา: 2,990,000 บาท (ราคารวม VAT)
สุดยอดรถยนต์คอมแพคต์ขนาดกะทัดรัดระดับพรีเมี่ยม ที่ยังคงเอกลักษณ์สุดคลาสสิกไว้อย่างครบครันและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องภายหลังจากประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ 4 กระบอกสูบ แฟนๆ มินิสามารถเลือกเครื่องยนต์ได้ทั้งเบนซินและดีเซล นอกจากนี้แล้วเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo เป็นหัวใจสำคัญที่มอบความคล่องแคล่วปราดเปรียวลงตัวระหว่างประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง
มินิ แฮทช์ 5 ประตู
มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 5 ประตู พร้อมชุดแต่งจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ราคา: 3,030,000 บาท (ราคารวม VAT)
รถมินิ แฮทช์ 5 ประตูที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งรุ่น ได้มีการปรับปรุงที่เพิ่มขึ้นจากรุ่น 3 ประตู ด้วยการเน้นประสิทธิภาพการใช้งานจริงและความสะดวกสบายของห้องโดยสารที่เพิ่มมาจากฐานล้อที่ขยายยาวขึ้น ผู้โดยสารตอนหลังมีพื้นที่กว้างขวางขึ้นถึง 72 มิลลิเมตรสำหรับระยะวางขาเมื่อเทียบกับมินิ แฮทช์ รุ่น 3 ประตู ไม่เพียงเท่านั้น พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นยังหมายถึงเบาะนั่งที่สามสำหรับผู้โดยสารตอนหลังอีกด้วย สำหรับประตูด้านหลังทั้งสองที่เพิ่มเข้ามาช่วยให้การขึ้น-ลงสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
สำหรับมินิ คูเปอร์ เอส รุ่นแฮทช์ 3 ประตูและ 5 ประตู ที่นำมาให้ทดลองขับมาพร้อมชุดแต่งจอห์น
คูเปอร์ เวิร์กส์ ทำให้รถดูสปอร์ตมากขั้น ปราดเปรียวสะกดทุกสายตา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ตกแต่ง แอโรไดนามิค ล้ออัลลอย Cup Spoke 2-tone ขนาด 18 นิ้ว ภายในมาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบ สเต็ปโทรนิค สปอร์ต ตกแต่งด้วยพวงมาลัยหนัง JCW หัวเกียร์หนัง ครบชุดแต่งในแบบฉบับจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ทั้งขอบประตู แท่นเหยียบสแตนเลส สตีล และที่วางเท้า ช่วงล่างที่มีระบบ Dynamic Damper Control ไฟหน้าแบบ LED และสุดยอดระบบเครื่องเสียง Harman Kardon ที่ช่วยเพิ่มสุนทรียะแห่งการขับขี่
อุ่นใจทุกเส้นทางกับโปรแกรมบำรุงรักษาและการรับประกัน
นอกเหนือจากสมรรถนะและดีไซน์ที่โดดเด่นของมินิทุกรุ่นแล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดคือความสบายใจของลูกค้ากับโปรแกรม MINI Service Inclusive อภิสิทธิ์พิเศษสุดสำหรับเจ้าของรถมินิ คุ้มครองรถให้ขับเคลื่อนไปในทุกเส้นทางอย่างราบรื่น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับกำหนดใดที่ถึงก่อน) นอกจากนี้ มินิยังมีโปรแกรมการรับประกันที่ขยายขอบเขตการคุ้มครองเป็นตลอดระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางอีกด้วย
สุดท้ายต้องขอขอบคุณ มินิ ประเทศไทย ที่ชวนไปเปิดประสบการ์ณยิ่งใหญ่กับรถมินิครั้งนี้ครับ