ไม่รู้ว่าเป็นโชค หรือ จังหวะชีวิต ที่วันนี้ได้มีโอกาสสัมผัสกับของแรงที่จัดว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดรถจักรยานยนต์ที่หลายคนฝันถึง โดยทีแรกมีนัดหมายเพียงแค่ให้ไปช่วยถ่ายภาพให้หน่อย แต่ให้เอาชุดไปด้วย ฟังทีแรกก็คิดว่าแค่ยืนเป็นนายแบบเฉยๆ ก็คนมันหล่อช่วยไม่ได้ครับ เจ้าเพื่อนผมก็บอกว่าไปเปลี่ยนชุดกัน เอาละ งานร้อนมาแล้ว ท้ามกลางแสงแดดจ้า รถซูซูกิ GSX-S1000 และ GSX-1000 F สีน้ำเงินสดใสก็ถูกนำมาจอดรอไว้แล้ว
แค่คิดก็มันแล้ว
วางกล้องไว้ก่อน แล้วโดดขึ้นคล่อมตัว S1000 เป็นอันดับแรก ส่วนเจ้าเพื่อนผมก็ขึ้น 1000 F เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มทันทีที่กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงจากปลายท่อแสดงถึงพละกำลังที่อัดแน่นอยู่ในเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 999 ซีซี.ทุกครั้งที่ขยับข้อมือ
ไม่รอช้า บีบคลัทช์เข้าเกียร์ 1 หน้าปัดแสดงตำแหน่งเกียร์ชัดเจน เปิดรอบเครื่องนิ่งๆ ตัวรถเริ่มขยับ พอเท้าพ้นพื้น ก็เข้าเกียร์ 2 ลองขยับคันเร่งเล็กน้อย แม่เจ้า…!!! เหมือนโดนถีบเต็มแรง ตัวรถทะยานขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ดีที่มีระบบ Traction Control มาคอยช่วยเหลือ (3-Mode Traction Control System ระบบ Traction Control ของซูซูกิ GSX-S1000 ใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดความเร็วในล้อหน้าและหลัง ตำแหน่งของลิ้นปีกผีเสื้อ ตำแหน่งองศาเพลาข้อเหวี่ยงและตำแหน่งเกียร์มาเพื่อประมวลผลในการสั่งลดกำลังของเครื่องยนต์เมื่อได้ตรวจพบอาการสไลด์ของล้อ
กำลังของเครื่องยนต์ถูกควบคุมโดยการลดไฟจุดระเบิดและปรับลดอากาศที่ส่งผ่านไปยังห้องเผาไหม้ ทำให้ระบบ Traction Control ทำงานได้อย่างราบรื่น
ระบบ Traction Control จะทำการประมวลผลจากเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งทั้ง 5 จุดทุกๆสี่มิลลิวินาที เพื่อควบคุมไฟจุดระเบิดและตอบสนองการลดกำลังของเครื่องยนต์ได้อย่างทันท่วงทีและฉับไว
ผู้ขับขี่สามารถเลือกระบบ Traction Control ได้ถึง 3 ระดับและสามารถปิดระบบได้ตามความชื่นชอบและสไตล์ของผู้ขับขี่หรือตามสภาพถนนที่ขับขี่ ) รถจึงนิ่งมาก หลังจากวนไปวนมา สลับกับลงไปถ่ายรูปสวยๆ ให้เพื่อแล้ว ก็ได้รับข้อความที่รอมานาน “ออกไปข้างนอกกัน” นั่นแหละครับ สวรรค์เปิดจริงๆ
บนถนนรังสิต-นครนายก หนาแน่นไปด้วยรถนานาชนิด ไฟแดง ซ่อมถนน ไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้นเมื่ออยู่บนหลังเจ้า S1000 เปิดคันเร่ง ไล่เกียร์ 1-6 รอบไม่ตก แม้แต่น้อย ผสานกับเสียงท่อที่แสดงถึงพลังที่พรั่งพรูออกมาเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด เราวิ่งที่ความเร็วไม่เกิน 130 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัย
เมื่อถึงจุดที่กำหนดเอาไว้ เราก็สลับรถกันขี่กลับ โดยผู้เขียนเปลี่ยนไปขี่รุ่น 1000 F ที่มีความแตกต่างกับรุ่น S1000 ที่เปลือกนอกเท่านั้น แต่ความแตกต่างที่ว่า มีส่วนช่วยในเรื่องของแอร์โร่ไดนามิค ที่ช่วยลดแรงปะทะของกระแสลมกับตัวผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างมาก ช่วยให้รถวิ่งได้นิ่งขึ้น พุ่งทะยานได้ดีขึ้นที่ความเร็วสูง แต่ก็มั่นใจได้เต็มที่เมื่อต้องการหยุดรถด้วยระบบเบรกแบบทวินดิสก์ขนาด 310 มม. พร้อมด้วยคาลิเปอร์ Brembo แบบ 4 พอร์ต ระบบ ABS ที่ควบคุมไม่ให้ล้อล๊อค
ใช้เวลาไม่นาน เราก็กลับมาถึงยังโชว์รูม ซูซูกิ เป็นที่เรียบร้อย สุดท้ายต้องขอขอบคุณ ไทย ซูซูกิ มอเตอร์ และคุณ ระพี ที่ไว้วางใจให้ www.autofreestyle.com ได้มีโอกาสได้สัมผัสกับสุดยอดรถจักรยานยนต์ ซูซูกิ GSX-S1000 และ GSX-1000 F ในครั้งนี้