เครื่องยนต์ถ้ามีสภาพปกติ รอบของเครื่องยนต์จะนิ่ง และคงที่อยู่ตลอดเวลา ถ้าแอร์ทำงาน ตัวชดเชยก็จะทำหน้าที่เร่งรอบให้อัตโนมัติ แต่ถ้าวันดีคืนดี รอบเครื่องยนต์ของคุณกลับไม่นิ่ง มีอาการเร่งสูงบ้างต่ำบ้าง รอบเครื่องเดินเบาต่ำกว่าปกติ หรือบางครั้งก็ค้างในรอบที่สูงกว่าปกติที่ควรจะเป็น และอันตรายยิ่งถ้ารอบเครื่องสูงจนน่าตกใจ และค้างในขณะใช้งานก็จะเป็นอันตรายมากเลยทีเดียว
อาการค้างของลิ้นเร่งนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดที่สายคันเร่ง ในรถรุ่นเก่าๆ รถรุ่นใหม่ๆส่วนใหญ่จะเป็นลิ้นเร่งไฟฟ้ากันเกือบหมดแล้ว แต่ใช่ว่าลิ้นเร่งไฟฟ้าจะมีอาการค้างไม่ได้นะครับ สามารถค้างได้เหมือนกัน แต่บางครั้งอาการค้างนั้นก็ไม่ได้เกิดกับสายคันเร่งเสมอไปครับ เพราะมีอีกหนึ่งสาเหตุที่เจอกันอยู่บ่อยๆ เครื่องยนต์เมื่อทำงานในวัฐจักร ดูด อัด ระเบิด คาย โดยเฉพาะในช่วงจังหวะดูดนั้น เครื่องยนต์จะดูดอาการจากภายนอกเข้ามายังห้องเผาไหม้ โดยผ่านกรองอากาศ เพื่อกรองฝุ่นละอองที่มีอยู่ในอากาศให้อากาศสะอาด ก่อนที่จะเข้าเครื่องยนต์ กรองอากาศ ถ้ายังใหม่ สด ซิง และได้รับการดูแลรักษาเป่าทำความสะอาด และเปลี่ยนใหม่ตามระยะเวลา จะสามารถกรองอากาศได้สะอาดหมดจดทีเดียว
แต่นานไป กรองอากาศก็เกิดการเสื่อมสภาพไปตามระยะเวลาการใช้งาน หรือขาดการบำรุงรักษา อากาศจากที่เคยสะอาด ก็จะมีฝุ่นละอองเล็ดลอดเข้าไปตามท่อทางเดินอากาศ และในขระเดียวกันเมื่อเครื่องยนต์ทำงานก็จะเกิดความร้อน น้ำมันเครื่องก็จะร้อนและส่วนหนึ่งเป็นไอระเหยและออกมาทางท่อระบายที่บริเวณท่อทางเดินอากาศ และถูกดูดเข้าไปยังเครื่องยนต์ไปพร้อมกับฝุ่นละออง และไปเกาะตามผนังท่อทางเดินอากาศ ส่วนหนึ่งจะไปติดค้างที่ลิ้นปีกผีเสื้อ ท่อร่วมไอดี และเข้าสู่เครื่องยนต์ไป แน่นอนนานวันเข้า คราบที่เกาะสะสมก็จะหนาขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะที่ลิ้นปีผีเสื้อ ที่มีการขยับตัวอยู่ตลอดเวลา จะเป็นส่วนที่คราบเหล่านั้นเกาะมาที่สุด โดยเฉพาะบริเวณขอบ ทำให้ลิ้นปีกฝฃผีเสื้อปิดไม่สนิทและเปิดกว้างจากคราบที่เกาะอยู่ และก็มีอีกกรณีหนึ่งซึ่งส่วนหลังนี้จะเป็นกันมากกว่า รอบเดินเบาต่ำกว่าปกติ โดยปกติแล้วลิ้นปีกผีเสื้อนั้น รอบเดินเบาจะเปิดอยู่เล็กน้อย เพื่อให้อากาศเข้าไปยังเครื่องยนต์ คราบสกปรกเหล่านั้นก็จะไปอุดปิดช่องทางเดินอากาศให้น้อยลง เครื่องยนต์ก็จะเดินไม่เรียบและต่ำกว่าปกติครับ
ล้างทำความสะอาดเพื่อการทำงานที่สมบูรณ์
เมื่อรู้ถึงสาเหตุกันแล้ว การล้างทำความสะอาดเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้การทำงานของลิ้นเร่งกลับคืนมาเต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิม ใครจะไปให้ช่างทำความสะอาดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าใครมีฝีมือทางช่างอยู่บ้าง การล้างลิ้นเร่งก็ไม่ใช่เรื่องยาก แค่มีเครื่องมือเพียงแค่สองสามตัวเท่านั้นเองสำหรับการทำงาน เมื่อมีเครื่องมือครบก็มีลงมือกัน เริ่มด้วยการถอดเอาท่อที่มาจากกรองอากาศออกกันซะก่อน ท่อนี้ส่วนใหญ่จะเป็นท่อยางสีดำ ยึดด้วยเข็มขัดรัดก็ใช้ไขควงคลายเข็มขัดรัดออกทั้งสองด้าน ถอดเอาท่อหายใจที่มาจากฝาครอบวาล์วออกด้วย ก็สามารถดึงเอาท่ออากาศออกมาได้แล้ว ถ้าสังเกตุดูภายในท่อจะพบกับคราบฝุ่นที่เล็ดลอดเข้าไปภายใน ก็ล้างทำความสะอาดด้วยเลยทีเดียวละกันครับ
เมื่อเราถอดเอาท่อยางออกมาแล้วก็จะเห็นกับลิ้นปีกผีเสื้อ ที่มีลักษณะกลมๆสีทองๆ เราก็ปลดสายคันเร่ง สายไฟที่ติดอยู่กับลิ้นปีผีเสื้ออกซะ และจะมีท่อน้ำอีกสองเส้น ท่อเข้าและท่ออก ตัวนี้จะเป็นท่อน้ำเลี้ยงสำหรับชดเชยรอบเครื่องในขณะที่ทำการติดเครื่องในตอนเช้าๆหรือติดครั้งแรก ถ้ายังเย็นเซนเซอร์จะสั่งให้ลิ้นเร่งเปิดกว้างกว่าปกติ และจะลดลงมาเมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์ปกติแล้ว เราก็ปลดสายท่อน้ำออก แล้วก็จัดการถอดเอาน็อตยึดชุดลิ้นเร่งออกมา ส่วนใหญ่จะมีอยู่ 4 ตัว แล้วเราก้ได้ลิ้นเร่งสกปรกออกมา เราก็จัดการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำมันเบนซิน เช็ดล้างให้สะอาดตามความพอใจเลยครับ เอาให้เอี่ยมที่สุดเท่าที่จะล้างได้
เมื่อคิดว่าสะอาดดีแล้วก็จะการมาประกอบเข้าที่เดิม ง่ายๆ ก็ถอดอะไรมาก็ใส่เข้าไปตามเดิม ขั้นตอนนั้นก็ย้อนจากการถอดนั้นแหละครับ ก็ใส่ลิ้นเร่ง ยึดน็อต ใส่ท่อยางสายไฟต่างๆให้ครบ ท่อทางเดินอากาศ ตรวจเช็คความเรียบร้อยว่าไม่ลืมกวดน็อตตรงไหน จากนั้นก็จัดการลองติดเครื่องยนต์ดูครับ เครื่องยนต์จะเดินนิ่ง เรียบเหมือนรถออกมาใหม่เลยทีเดียวครับ รอบเครื่องยนต์ไม่มีการสวิงเหมือนที่เคยๆเป็น รอบค้าง หรือรอบต่ำผิดปกติก็จะหายเป็นปกติครับ การล้างลิ้นเร่งเหมือนไม่ใช่เรื่องยากถ้าใครมีเทคนิคทางช่างก็สามารถล้างทำความสะอาดรถคันเก่งเองได้ แต่ถ้าใครไม่รู้เทคนิคทางช่าง ศึกษาอาการแบบนี้เอาไว้ แล้วก็เอาไปให้ช่างจัดการล้างทำความสะอาด และก็เป็นแนวทางไม่ให้ช่างฟันหัวแบะได้เหมือนกันนะครับ
ถ้าล้างแล้วไม่หาย แสดงว่าลิ้นเร่งเสื่อมใช่หรือไม่ค่ะ
ถ้าล้างแล้วไม่หาย แสดงว่าลิ้นเร่งเสื่อมใช่หรือไม่ค่ะ
ยังมีแววนักวิชาการอยู่นะ