เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เชิญสื่อมวลชนร่วมสัมผัสอีกระดับของความหรูหราที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่และการควบคุมที่เหนือชั้นของเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ในกิจกรรมทดสอบขับบนเส้นทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่เกาะช้าง จังหวัดตราด เส้นทางการทดสอบประกอบไปด้วยถนนเรียบยาวบนทางหลวง เส้นทางคดเคี้ยว ทางแคบและทางชัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสความโดดเด่นทุกด้านของรถเอสยูวี ระดับพรีเมียม สไตล์อเมริกันรุ่นนี้
มร. เวล ฟาร์กาลี กรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอรถเอสยูวีระดับพรีเมียมที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าชาวไทย เราจึงพัฒนาเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุดให้เปี่ยมด้วยความประณีตหรูหรา ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีที่เหนือระดับยิ่งขึ้น พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ซึ่งผมเชื่อว่าลูกค้าจะได้รับความประทับใจและสนุกสนานในการขับขี่เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างแน่นอน”
“เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุดได้รับการออกแบบเพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่และมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำตลาดประเทศไทย รถเอสยูวี ระดับพรีเมียม สไตล์อเมริกันรุ่นนี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเราให้ความสำคัญกับตลาดรถกระบะและรถเอสยูวีในประเทศไทยมากเพียงใด” มร. ฟาร์กาลี กล่าว
ด้วยความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำตลาด เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด มีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายในที่โดดเด่น เสียงเครื่องยนต์และเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารที่ลดลง พร้อมกับมีเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ครบครันยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังมีศักยภาพในการลุยเส้นทางออฟโรดได้อย่างสมบุกสมบัน ซึ่งคุณสมบัติและความหรูหราเหล่านี้ถ่ายทอดมาจากรถเชฟโรเลตที่ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา
คุณอุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประสบการณ์ลูกค้า เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ตามที่ดิฉันได้กล่าวไว้ในงานเปิดตัวเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ว่าถ้าได้ทดลองขับก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารถเอสยูวีรุ่นนี้เพียบพร้อมความโดดเด่น และเน้นย้ำความเป็นรถเอสยูวี ระดับพรีเมี่ยม สไตล์อเมริกันขนานแท้ วันนี้สื่อมวลชนจะได้สัมผัสความสะดวกสบาย ความหรูหรา เทคโนโลยี และสมรรถนะของรถเอสยูวี ระดับพรีเมียม สไตล์อเมริกัน ซึ่งดิฉันเชื่อมั่นว่าทุกท่านจะได้รับความสนุกสนานและความประทับใจในการขับขี่ตลอดการเดินทางสู่เกาะช้าง”
ข้อมูลพัฒนาการของเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด
เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับการออกแบบเส้นสายลวดลายที่เฉียบคมแสดงให้เห็นถึงความบึกบึนและความหรูหราที่มากยิ่งขึ้น สัดส่วนตัวถังยังคงมีความแข็งแกร่งเพื่อเน้นย้ำศักยภาพการลุยไปได้ทุกที่ เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกระจังหน้าใหม่ ฝากระโปรงใหม่ ล้ออัลลอยใหม่ และไฟหน้าใหม่ ซึ่งรวมไปถึงไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน
ภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกถึงความหรูหราเช่นเดียวกับภายนอก การออกแบบเน้นความสะดวกสบาย ความกว้างขวาง ความหรูหราประณีต และเทคโนโลยี แผงแดชบอร์ดและคอนโซลด้านหน้าได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ให้มีความสวยงามและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น โดยภายในจะใช้วัสดุที่มีผิวสัมผัสนุ่มนวล เพิ่มความรู้สึกพรีเมี่ยม และช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร คอนโซลกลางได้รับการออกแบบใหม่ตอบสนองการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีนสีขนาด 8 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับรุ่น) แสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นใหม่ล่าสุด
ผู้โดยสารที่นั่งแถวที่สองและแถวที่สามจะมีทัศนวิสัยที่กว้างไกลรอบด้านด้วยเบาะที่นั่งที่จัดวางแบบโรงภาพยนตร์ (theatre-style) สะดวกสบายด้วยช่องปรับอากาศที่มีการควบคุมแบบแยกส่วนซึ่งรวมถึงช่องปรับอากาศของผู้โดยสารเบาะแถวที่สาม นอกจากนี้ ยังสามารถพับเบาะทั้งสามแถวให้แบนราบเพื่อขยายพื้นที่ให้มีความกว้างขวางมากขึ้นสำหรับการบรรทุกสัมภาระได้อีกด้วย
เทคโนโลยีการเชื่อมต่อมีความสำคัญสำหรับผู้ขับขี่ในยุคปัจจุบัน เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุดรองรับการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ ทำให้ลูกค้าสามารถแสดงผลหน้าจอสมาร์ทโฟนขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนของตัวรถได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นสิริ อายส์ฟรี และซอฟต์แวร์สั่งงานด้วยเสียง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งงานด้วยเสียงโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย
พิสูจน์สมรรถนะเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด
เส้นทางการทดสอบขับจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่เกาะช้างประกอบด้วยถนนทางตรง เช่น ทางหลวงและเส้นทางคดเคี้ยว เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นของเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการยกย่องว่ามีสมรรถนะการควบคุมที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด ด้วยช่วงล่างแบบคอยล์สปริงสี่ล้อ ช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงก์ พร้อมคอยล์สปริงและช็อกอัพแก๊ส และระบบดิสก์เบรกสี่ล้อ ระบบกันสะเทือนของเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ได้รับการปรับปรุงเพื่อยกระดับการขับขี่และการควบคุม พร้อมช็อกอัพแบบไดเกรสซีฟ ซึ่งช่วยให้เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ขับขี่สบายขึ้นและมีเสถียรภาพที่ยอดเยี่ยม
หลังจากจัดสรรรถและผู้ร่วมเดินทางกันแล้ว ขบวนก็เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้ายังเกาะช้าง โดยสัมผัสแรกที่ได้นั่ง รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เบาะนั่งสูงขึ้น มุมมองรอบตัวชัดเจนมากขึ้น เสียงรบกวนจากเครื่องยนต์น้อยลงมาก เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม คอนโซลหน้าใหม่ สวยงาม เข้าถึงการใช้งานต่างๆได้ง่าย ลูกเล่นเยอะขึ้น
ตลอดระยะทางกว่าร้อยกิโลเมตรที่เป็นผู้โดยสาร ช่วยให้ได้มีเวลาจับความรู้สึกถึงความแตกต่างจากรุ่นเดิมได้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น สัมผัสได้ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องของเสียงรบกวน และสิ่งอำนวยความสะดวก แม้แต่ความเย็นของห้องโดยสารทั้งหมดที่มีช่องแอร์บนเพดานช่วยกระจายความเย็นไปยังด้านหลัง
ผ่านช่วงแรก ไปแล้ว ก็เปลี่ยนไปเป็นผู้ขับขี่บ้าง จึงได้มีโอกาสทดสอบพลัง เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 เทอร์โบใหม่ มาพร้อมเกียร์ส่งกำลังชุดใหม่ ให้อัตราเร่งได้น่าประทับใจ การเปลี่ยนอัตราทดเป็นไปอย่างนุ่มนวล พวงมาลัยไฟฟ้าใหม่คมขึ้น เลี้ยวได้แม่นยำ ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น
ที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนนอกจากเครื่องยนต์แล้ว ยังมีช่วงล่างใหม่ที่หนึบกำลังดี ไม่มีอาการดีดดิ้น ไม่ว่าจะเจอสภาพถนนขรุขระ ในโค้งที่ความเร็วสูงก็ตาม ระยะทางที่ต้องขับแม้จะเกือบ 2 ร้อยกิโลเมตร แต่กลับรู้สึกเหมือนไม่ไกลเลย
สรุปการขับขี่ระยะสั้นๆ แต่กลับสร้างความประทับใจได้อย่างเหลือเชื่อ ถ้าใครยังติดภาพเดิมๆ ที่อืดอาด ช่วงล่างนิ่มย้วยแล้ว ต้องได้มาลองรุ่นใหม่ จะเข้าใจว่า” นุ่ม หนึบ เงียบ” มันเป็นแบบนี้
ห้องโดยสารที่มีความประณีตหรูหรา และเสียงรบกวนต่างๆ ทั้งเสียงเครื่องยนต์และเสียงลมที่ลดลง เนื่องจากเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ถูกยกระดับประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ให้ดีขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงซีลกระจกหน้าต่าง กระจกบังลมหน้า แผงประตู และแนวหลังคาใหม่เพื่อลดเสียงลม กระจกมองข้างถูกปรับปรุงการออกแบบเพื่อขจัดเสียงรบกวน ขณะที่กระจกหน้าต่างซ้ายและขวามีความหนายิ่งขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีความเงียบขณะขับขี่มากกว่าเดิม 8 เปอร์เซ็นต์
เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 4 สูบ ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร ที่ถูกปรับปรุงใหม่เพื่อสมรรถนะที่ดีขึ้น ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่า และลดมลพิษไอเสีย ด้วยการใช้ระบบเทอร์โบแปรผันหรือ VGT (Variable Geometry Turbocharger) มีพละกำลัง 180 แรงม้า (132 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบต่อนาที เครื่องยนต์รุ่นนี้ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4
เส้นทางที่แคบและลาดชันบนเกาะช้าง สามารถทดสอบสมรรถนะและเครื่องยนต์ที่ทรงพลังของเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร (325 ฟุตปอนด์)ที่รอบต่ำเพียง 2,000 รอบต่อนาที ช่วยขับเคลื่อนรถเอสยูวี ระดับพรีเมียมรุ่นนี้ให้สามารถปีนป่ายเนินลาดชันได้อย่างไม่ยากเย็นและให้ความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างเต็มที่
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.5 ลิตรถูกติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงรบกวนบริเวณหัวฉีด เพื่อให้ทำงานได้เงียบขึ้น เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ยังมาพร้อมยางรองตัวถังและยางรองแท่นเครื่องยนต์แบบใหม่ ซึ่งช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ทำให้มีระดับเสียงและแรงสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสารลดลง โดยจากการทดสอบของทีมวิศวกรแสดงให้เห็นว่าห้องโดยสารเงียบลง 2-4 เดซิเบล
ตลอดเส้นทางการทดสอบ สื่อมวลชนยังสามารถรับรู้ถึงสมรรถนะการควบคุมที่ดีขึ้นและสะดวกสบายกว่าเดิมด้วยระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการบังคับพวงมาลัยสำหรับการขับขี่ในเมืองและขณะจอดรถ อีกทั้งยังช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ระบบบังคับเลี้ยวจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นตามความเร็วในการขับขี่ ดังนั้นจึงมีน้ำหนักพวงมาลัยที่เหมาะสมเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงขึ้น
เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมระบบความปลอดภัยใหม่ อย่างระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา และระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแพสซีฟ (ขึ้นอยู่กับรุ่น) ทั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรีทั้งขณะออกตัวและในโค้ง Traction Control System (TCS), ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน Panic Brake Assist (PBA), ระบบกระจายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution (EBD), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Control (ESC), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน Hill Descent Control (HDC) ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน Hill Start Assist (HSA) ระบบรักษาเสถียรภาพขณะลากจูง (Trailer Sway Control) ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Anti-Rolling Protection) พร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตลอดจนถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่
เทคโนโลยีอื่นๆ เช่น ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร (Lane Departure Warning) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Alert) ระบบช่วยเหลือการจอดด้านหน้าและหลัง (Front and Rear Parking Assist) ระบบแจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัย สำหรับผู้โดยสารแถวสอง (Second Row Seat Belt Reminder) และระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณน้ำฝน ไฟหน้าเปิด/ปิดอัตโนมัติ กระจกหน้าต่างคู่หน้าเลื่อนลงเล็กน้อยเพื่อช่วยในการปิดประตูให้ง่ายยิ่งขึ้น
เทรลเบลเซอร์รุ่นใหม่ยังเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในตลาดที่มีฟังก์ชั่นรีโมทสตาร์ท ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในสภาพอากาศร้อนอบอ้าวอย่างเมืองไทย ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากกุญแจ เพื่อให้ห้องโดยสารมีอุณหภูมิที่เย็นสบายก่อนขึ้นรถ
เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ตามราคาดังต่อไปนี้