เมื่อไม่นานมานี้ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ชวนให้ไปลองขับ MG GS 1.5 Turbo ซึ่งเป็นรถที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากรุ่น 2.0 และ2.0 Turbo ซึ่งเราก็ได้ไปลองขับมาก่อนหน้านี้แล้ว ถามว่าทำไมถึงต้องมี 1.5 Turbo ได้รับคำตอบว่า “MG GS 1.5 Turbo มาเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับสาวๆที่ต้องการรถ SUV” ขับง่าย เบา กะทัดรัด และปราดเปรียว
เริ่มต้นการเรียนรู้
เช้าวันที่อากาศสดใส เรามาถึงยังจุดนัดพบเพื่อร่วมฟังการบรรยายถึงข้อมูลเบื้องต้นของรถยนต์ MG GS 1.5 Turbo จากทีมงานเจ้าหน้าที่ว่า MG GS ใหม่ คือเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ TGI-TECH ระบบหัวฉีดไดเรคอินเจคชั่น พละกำลังสูงสุด 167 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,700 – 4,400 รอบต่อนาที ทำงานควบคู่กับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ TST – 7 SPEED ที่ได้รับการปรับแต่งให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว มอบอัตราเร่งที่ทันใจในรอบเครื่องยนต์ต่ำเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด แต่ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่า
นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังจะได้รับความสะดวกสบายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง และอุ่นใจตลอดการเดินทางด้วยระบบสื่อสารอัจฉริยะอินคาเน็ต พร้อมด้วย 13 เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป (SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM) ที่ทำงานประสานกันอย่างลงตัว อาทิ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS TRACTION CONTROL SYSTEM) ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CURVE BRAKE CONTROL) ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS STABILITY CONTROL SYSTEM) และระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR MOTOR CONTROL SLIDE RETAINER)
ข้อมูลแน่น แล้วก็มาถึงเวลาที่จะต้องลองขับจริงๆ
โดยจะมีจุดหมายปลายทางที่จังหวัดอุดรธานี แต่วันแรกตามโปรแกรมแล้วจะต้องแวะนอนที่ขอนแก่นสักคืน 555 เช่นเดิมครับ ขอเป็นผู้โดยสารก่อน เพื่อเรียนรู้และทำความรู้จักกับรถที่เราจะขับให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะเบาะหลังของ MG GS 1.5 Turbo นั่งสบายกว่าที่คิดไว้เยอะครับ พนักพิงเอนได้ระดับที่เหมาะสม เบาะกว้างนั่งสบาย และที่สำคัญช่วงล่างที่ไม่ดีดเด้งให้เวียนหัว จึงไม่แปลกใจที่บางเวลาจะเพลินจนหลับไป
ในตำแหน่งด้านหลัง ผู้โดยสารยังสามารถมองเห็นด้านหน้าได้ค่อนข้างชัด จึงช่วยลดอาการวิงเวียนสำหรับคนที่ชอบเมารถได้ดี แอร์เย็นกระจายทั่วถึงเพราะที่คอนโซนมีช่องปรับมาให้เป็นมาตรฐานจากโรงงาน
มาถึงครึ่งทาง เราก็ได้รับหน้าที่ขับมุ่งหน้าไปยังจังหวัดชัยภูมิ เพื่อเยี่ยมชมโชว์รูมที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่พักในจังหวัดขอนแก่น
ระหว่างทาง มุ่งหน้าไปยังโชว์รูมที่ชัยภูมิ ถนนจะเป็นทางแคบคดเคี้ยว ตรงนี้เองทำให้เราได้เห็นถึงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์ 1.5 Turbo ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ TST – 7 SPEED (เอกลักษณ์ของเกียร์ MG คือ จะมีพื้นฐานของเกียร์ธรรมดาแล้วพัฒนาระบบมาช่วยในการเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลเหมือนเกียร์ออโตเมติก ข้อดีคือให้อัตราเร่งเหมือนเกียร์ธรรมดา แต่ค่าดูแลรักษาต่ำ อายุการใช้งานยาว) และช่วงล่างที่ปรับใหม่ หนึบนุ่ม เบรกไว้ใจได้ ระบบช่วยเหลือต่างๆ ที่มีให้เกือบจะเท่ากับรุ่น 2.0 Turbo จึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้เต็มที่
วันที่ 2 ของการเดินทาง อากาศกำลังเย็นสบายในเช้าวันที่ 2 ของการเดินทางจากขอนแก่นไปยังอุดรธานี มีกิจกรรมให้เล่นสนุกกันนิดหน่อย คือให้สื่อได้ทดลองความประหยัด โดยมีข้อจำกัดเพียง กำหนดเวลาเข้าที่จุดเช็ค 1 ชม 30 นาที กับระยะทางร้อยกว่ากม. การจราจรหนาแน่นพอสมควร แถมเส้นทางยังไต่ความสูงขึ้นตลอดระยะทาง คุณคิดว่าเครื่องยนต์ 1.5 Turbo ของ MG GS จะมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยกี่กม./ลิตร….?
ที่โชว์รูมอุดรธานี เราได้พบอีกหนึ่งผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีในวิถี MG การก้าวเดินพร้อมมอบความมั่นใจให้กับลูกค้า MG ทุกคน น่าดีใจกับ MG ประเทศไทยที่ได้ผู้ประกอบการน้ำดีมาร่วมวางรากฐานความมั่นคงในประเทศไทย
MG GS รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ มีราคาเริ่มต้นที่ 890,000 บาท ในรุ่น 1.5 D และ 990,000 บาท ในรุ่น 1.5 X สุดท้ายก่อนจาก เฉลยตัวเลขที่สามารถทำได้ในวันนั้น เท่ากัน 3 คันคือ 17.XX กม./ลิตร กับน้ำมัน E20 ครับ ที่ความเร็วเดินทางจริงๆ ทั้งนี้ตัวเลขการใช้งานจริง ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของบุคคล
สุดท้ายต้องขอขอบคุณ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พี่ตุ้มพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์และน้องบอย รวมถึงทีมงานทุกท่านที่ให้การต้อนรับและดูแลเป็นอย่างดีตลอดการเดินทาง