Friday, April 19, 2024

Homeข่าวน่าสนใจทริปสั้นๆ ไปทะเล กับ Nissan Navara Black edition

ทริปสั้นๆ ไปทะเล กับ Nissan Navara Black edition

บริษัทนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้จัดทริปลองขับแบบพอสนุก ใช้เส้นทาง กรุงเทพสัตหีบ โดยให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับรถรุ่นใหม่ ซึ่งแม้การเดินทางจะมีระยะทางและเวลาสั้นๆ ก็ยังเพียงพอจะช่วยให้รับรู้ถึงสมรรถนะของรถ Nissan Navara Black edition ได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ทีมงานได้วางเส้นทางให้วิ่งแบบสบายๆ จากบางนา ใช้ทางยกระดับวิ่งยาวๆไปถึงจังหวัดชลบุรี แล้วไปต่อกับทางพิเศษ มอเตอร์เวย์ ยาวๆ ไปจนถึงอำเภอสัตหีบ จากนั้นเราเข้าไปทานอาหารกลางวันที่ฝั่งกองเรือยุทธการ

ช่วงแรกจับอาการรถจากความรู้สึกของผู้โดยสาร เบาะนั่งกว้างใหญ่ นั่งสบาย มุมมองโปร่งโล่งเห็นภายนอกชัดเจน ที่ว่างเพียวพอให้นั่งเหยียดขาแบบสบายๆ ความเงียบของห้องโดยสารจัดว่าดีมาก ฟังเพลงเพลินๆ แล้วยังสามารถพูดคุยกับเพื่อนร่วมทางได้โดยไม่ยาก แอร์เย็นฉ่ำ เพลินๆ กับกันสะเทือนที่ไม่เหมือนรถกระบะทั่วไปเพราะแทบจะไม่มีอาการกระเด้งกระดอนให้ปวดหลัง

พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับทีมงานนิสสัน ระหว่างมื้ออาหารเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาจิบกาแฟ โดยขบวนย้ายไปยังฝั่งนาวิกโยธิน ที่มีร้านกาแฟตั้งอยู่ริมทะเล ชมวิวสวยงาม และยังได้พูดคุยถึงเรื่องระบบต่างๆที่ติดตั้งมาให้ในNissan Navara Black edition

โดยจะมีรายละเอียดตามนี้

Nissan Navara Black edition ใหม่ จัดเต็มกับชุดแต่งโทนสีดำสุดเท่รอบคัน  ตั้งแต่กระจังหน้าแบบ interlock กระจกข้าง มือจับประตู กันชนหน้าด้านล่าง มือจับประตูท้าย และซุ้มล้อ  โฉบเฉี่ยวกับสติ๊กเกอร์ตกแต่ง Black Edition สีดำลายกราฟิกดุดันรอบคัน  ไฟหน้าแบบ Quad-eyed LED พร้อม Day-time Running Light และไฟท้าย LED แบบ light guide ที่นอกจากจะให้ความสว่างเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำ แล้วยังมีดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว  ขณะที่ล้ออัลลอยสีดำมาดเข้มขนาด 18 นิ้วลายใหม่ เพิ่มสไตล์เท่  และยังมีชุดคิ้วซุ้มล้อ (over fender) เป็นอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ  รวมทั้งมีเสาอากาศแบบครีบฉลามที่ดูทันสมัยและมีประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับการขับขี่แบบสปอร์ตในทุกเส้นทาง  เสริมจุดเด่นของการเป็นรถกระบะที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้ชีวิตแบบที่ไม่มีใครกล้าคิด และกล้าที่จะเท่ในทุกรูปแบบของการใช้งาน

ด้านภายในของนิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ คงความเท่ดุดันเช่นเดียวกับรูปลักษณ์ภายนอก ด้วยชุดแต่งโทนสีดำเสริมตามจุดต่างๆในห้องโดยสาร ได้แก่ ช่องแอร์ มือจับประตู ที่วางแก้ว ฐานเกียร์ ที่พักแขนที่ประตูและขอบประตู โดยนาวาราทุกรุ่นจะมาพร้อมมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ 3 มิติ ขนาด 7 นิ้ว ให้ผู้ขับขี่เห็นสถานะข้อมูลการขับขี่ได้อย่างชัดเจน และใช้งานได้ง่ายตลอดเวลา   

นิสสัน นาวารา ใหม่ ทุกรุ่นได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Unbreakable Design” ที่สื่อถึงอารมณ์และการใช้งานจริง ด้วยรูปโฉมภายนอกที่ดูบึกบึน ได้รับการออกแบบซุ้มล้อให้มีขนาดใหญ่ดูโดดเด่นเข้ากับรูปลักษณ์แบบรถยนต์ออฟโรด  กระจังหน้าแบบ Interlock ขนาดใหญ่เสริมความดุดัน สะท้อน Design DNA ซึ่งเป็นเอกลักษณ์การออกแบบสำหรับรถกระบะของนิสสันยุคใหม่

เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน “360° Safety Shield” พร้อมความสะดวกสบายครบครัน

นาวาราใหม่ รุ่นปี 2022 มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคันทั้งแบบ active และ passive จากระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง 360° Safety Shield ในทุกรุ่นย่อย* ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนเดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัย มั่นใจ ได้แก่

เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)เทคโนโลยีจะส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด หากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า

เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB) ระบบจะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ โดยจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้าเพื่อชะลอความเร็ว และหยุดรถ เพื่อลดความรุนแรง หรือ ลดความสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุ

เทคโนโลยีป้องกันการชนจากจุดอับสายตาอัจฉริยะ (Intelligent Blind Spot Intervention – IBSI)ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW) เทคโนโลยีเตือนอัจฉริยะนี้จะทำให้ทุกการขับขี่ของคุณมั่นใจยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ที่ต้องการเปลี่ยนช่องทางการขับขี่ทันทีที่สัญญาณไฟเลี้ยวถูกเปิดระบบจะส่งเสียงสัญญาณพร้อมไฟกระพริบเตือนให้รู้ล่วงหน้าว่าขณะนั้นกำลังมีรถคันอื่นอยู่ในช่องทางขับขี่ด้านข้างซึ่งผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็น หากยังพบการเบี่ยงเข้าหาช่องทางด้านข้างที่มีรถตามมา จุดอับสายตา เทคโนโลยีจะส่งแรงเบรกอย่างนุ่มนวลเพื่อดึงรถกลับสู่เส้นทางการขับขี่

เทคโนโลยีควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention – ILI) ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง Lane Departure Warning (LDW) ซึ่งจะแจ้งเตือนด้วย สัญญาณและเสียงเมื่อรถเคลื่อนที่ออกนอกช่องทางขับขี่ โดยระบบจะทำงานเมื่อมีการขับเคลื่อนด้วยความเร็วมากกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งนี้หากพบว่ารถกำลังออกนอกช่องทางขับขี่อย่างต่อเนื่อง และสัญญาณไฟเลี้ยวไม่ได้ถูกเปิดเทคโนโลยีจะส่งแรงเบรก เพื่อดึงรถกลับสู่ช่องทางการขับขี่ เพื่อช่วยและเตือนผู้ขับให้รู้ว่ารถกำลังออกนอกช่องทาง เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) ระบบจะเตือนระหว่างเข้าเกียร์ถอยหลัง เมื่อตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบเตือนในด้านเดียวกันกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา

เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ ซึ่งช่วยให้การขับรถในสถานการณ์ต่าง ง่ายยิ่งขึ้น และพิเศษขึ้นไปอีกสำหรับ นาวารา ใหม่ ที่เพิ่มระบบ Off-Road Meter เพื่อมุมมองขณะขับขี่ไปข้างหน้าในโหมด 4L นอกจากนี้จะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ โดยจะปรากฏบนหน้าจอกลาง ซึ่ง เทคโนโลยีอัจฉริยะนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและให้ความมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) และ เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันHill Descent Control  (HDC) เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชันช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลขณะออกตัว ขณะที่เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันช่วยป้องกันไม่ให้รถไถลเมื่อขับลงทางลาดชันสูงโดยใช้กำลังเครื่องยนต์ช่วยหน่วงความเร็วโดยไม่ต้องเหยียบเบรกช่วย

ครบครันกับ Passive Safety จากเทคโนโลยีความปลอดภัย Safety Shield

• TCS, VDC, และ TSA ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control (TCS) ช่วยควบคุมล้อให้ค่อยๆหมุนออกตัวโดยไม่เกิดอาการล้อหมุนฟรี มาพร้อม ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัจฉริยะ Vehicle Dynamic Control (VDC) ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถขณะหักเลี้ยวกะทันหัน รวมถึงระบบควบคุมเสถียรภาพของรถขณะลากจูง Trailer Sway Assist (TSA)

ระบบเบรก ABS, EBD และ BA ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (Anti-lock Braking System – ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (Electric Brake Force Distribution System – EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist – BA)

ถุงลมนิรภัย SRS 7 จุด ประกอบด้วย คู่หน้า / ข้าง และม่านข้างซ้ายขวา และบริเวณหัวเข่าของผู้ขับขี่ โดยถุงลมนิรภัยคู่หน้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งในทุกรุ่น

เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าสามารถปรับระดับได้ตามขนาดร่างกายของผู้โดยสารแต่ละคน เข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า ELR แบบสามจุด ELR และสามารถดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ เข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลัง ELR แบบสามจุดสามตำแหน่งที่นั่ง เสริมความปลอดภัยด้วยจุดยึดเบาะที่นั่งเด็กแบบ ISOFIX เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เป็นเด็ก

เต็มสมรรถนะ ทรงพลัง มั่นใจ ทุกสภาพการขับขี่

นิสสัน นาวารา รุ่นปี 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์ YS23DDTT แบบ 4 สูบ ความจุ 2.3 ลิตร DOHC เทอร์โบคู่สมรรถนะแรง ให้กำลังสูงสุด 190 hp (Ps) และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร (Nm)  เกียร์อัตโนมัติแบบ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล (M mode) ให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบธรรมดา  เพื่อความเพิ่มความสนุกในการขับขี่ที่ควบคุมได้ดังใจ  นอกจากนี้ยังประหยัดเชื้อเพลิง และรองรับน้ำมันดีเซลทุกแบบทั้ง B7, B10 และ B20

ขณะที่รุ่น King Cab Calibre และ Double Cab เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล YS23DDT 2.3 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VGS พร้อมเทอร์โบชาร์จที่ให้กำลังสูงสุด 163 Hp และแรงบิดสูงสุด 403 Nm

ได้เวลากลับกทม.จากผู้โดยสาร เปลี่ยนมาเป็นผู้ขับ คราวนี้สามารถจะบอกได้ว่ากำลังจากเครื่องยนต์ดีเซล2.3ลิตร เสริมกำลังด้วยเทอร์โบคู่ ให้การตอบสนองได้อย่างทันท่วงที ไม่มีรอรอบ เมื่อทำงานร่วมกับเกียร์ออโตเมตริก7 สปีดที่นุ่มนวล จนแทบจะไม่รู้หรือจับจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ไม่ได้เลย ที่ความเร็วเดินทาง พวงมาลัยมีแอบหนักนิดๆ สำหรับผช.ก็น่าจะกำลังดี แต่ถ้าเป็ยผญ.อาจจะมีบ่น ความคล่องตัวมีไม่น้อย มุมมองรอบคัน ถึงจะไม่มีกล้อง 360 องศา ก็แทบจะไม่ต้องกังวล

อัตราความสิ้นเปลือง ด้วยความที่เป็นการเดินทางลักษณะกลุ่ม ความเร็วมีตลอดเวลาจึงอาจจะได้ตัวเลขที่ไม่ชัดเจนสักเท่าไร แต่โดยส่วนตัวแล้ว 7.1 ลิตร ต่อ 100 กม.ก็พอได้อยู่ (14.3 กม./ลิตร)

ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงนิดหน่อยกับระยะทางเกือบๆ 200 กม. กลุ่มเราก็กลับมาถึงจุดนัดพบโดยสวัสดิภาพ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับก่อนที่สายฝนจะโปรยปราย

ถ้าจะให้สรุปถึง Nissan Navara Black edition ที่จัดว่าเป็นตัวเลือกสำหรับใครที่อยากได้รถที่สวยกว่ารถเดิมสมรรถนะจัดเต็ม จะเอาไปขับเท่ๆ ขับใช้งานหนัก Nissan Navara Black edition ก็ตอบสนองการใช้งานได้แน่นอน

สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และทีมประชาสัมพันธ์ที่ชวนไปขับรถเที่ยวในครั้งนี้ครับ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -




Most Popular

- Advertisment -




Recent Comments