Saturday, April 20, 2024

Homeไปไหนมา“แอ่วเหนือ เดอะ ซีรีส์” ตอน แม่ฮ่องสอน-ดอยอินทนนท์

“แอ่วเหนือ เดอะ ซีรีส์” ตอน แม่ฮ่องสอน-ดอยอินทนนท์


เว้นระยะไปนานเดี๋ยวสนิมจับพอดี หนีฝนหลงกรุงฯ เลยไม่ได้เขียนตอนจบของการเดินทางซึ่งเราไปขึ้นดอยสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ การเดินทางในช่วงสุดท้ายนี้ จะใช้เวลารวม3 วัน จาก อ.ปาย มาถึงดอยอินทนนท์ จะเป็นอย่างไรมีความสวยงามขนาดไหนเส้นทางเป็นอย่างไร ติดตามได้เลยครับ

1095

หลังจากที่กินลมชมวิวกับบรรยากาศยูนานแล้วเราก็กลับลงมาหามื้อเช้ากันในปาย ก็ได้ร้านอาหารเวียดนาม ซดข้าวเปียกคนละชามไข่กระทะ กับกาแฟร้อน เท่านี้ก็มีพลังออกเดินทางแล้วเส้นทางที่เราจะต้องใช้วันนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น 1095 ไต่ดอยขึ้นไปซึ่งระยะทางที่เหลือนี้ไม่ค่อยโหดร้ายแล้ว ไปเรื่อยๆ ชิลๆ ผ่าน “กิ่วลม” จุดชมวิวและยังเป็นจุดสูงสุดของเส้นทาง วันนี้ของกิ่วลมถูกพัฒนาไปเยอะมากจากจุดชมวิวธรรมดา กลายเป็นเกือบๆจะเหมือนตลาดเข้าไปทุกที ตอนที่ไปถึงอาการเย็นสบาย จากสายลมเย็นๆผสมละอองฝนบางๆ ช่วยให้ผู้ร่วมทางอารมณ์แจ่มใสยิ่งขึ้นผู้ขับก็ได้ผ่อนคลาย แต่อยากจะเตือนนักเดินทางไว้สักหน่อย เมื่อถึง “กิ่วลม”แล้วถ้ามียากันแมลงก็ขอให้ฉีดแขนขาไว้เลยนะครับ เพราะจะต้องพบกับตัว “คุ่น”จะคอยจ้องดูดเลือดเรา เจ็บมากแล้วก็จะคันเป็นแผลเป็นกันได้เลย ต้องระวังครับ

หลังใช้เวลาไปกับกิ่วลมได้พอหายเหนื่อยแล้วเราก็ออกเดินทางต่อ โดยเส้นทางจากจุดนี้ไป ก็จะวิ่งลงเขาซะเป็นส่วนใหญ่เราจะมาผ่านชุมชนอีกครั้งที่  “อ.ปางมะผ้า”จุดนี้มีร้านกาแฟให้แวะพักอยู่หลายร้าน ถ้าอ่อนล้าก็ควรแวะพักสักนิดครับ แต่ถ้าไหวก็ไปโลดขับขึ้นๆลงๆ ไปอีกไม่ไกล เราก็จะมาถึง “ถ้ำปลา”เป็นจุดแวะและเที่ยวชมธรรมชาติที่เหมาะมากครับ เสียค่าเข้าชมให้กับทางอุทยานคนละ 20 บาทเท่านั้น ซื้ออาหารปลาเข้าไปสัมผัสกับสายน้ำเย็นๆ ฝูงปลาพรวงตัวมหึมา
เท่านี้ก็ช่วยให้ลืมความคดโค้งของสายทางได้ระดับหนึ่ง ออกจากถ้ำปลาเหลือระยะทางอีกเพียง 10 กม.เราก็จะถึงตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตื่นเต้นทุกครั้งที่ไปด้วยความสวยงามของทั้งธรรมชาติและน้ำใจไมตรีที่มีให้กับนักเดินทางอย่างเรา

“เมื่อ6-7 ปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนจะต้องขึ้นไปทำภารกิจที่ จ.แม่ฮ่องสอนครั้งนั้นต้องสอบถาม จาก พ่อและแม่กับพี่สาวว่า แม่ฮ่องสอนเป็นอย่างไร…?
ได้คำตอบที่เป็นประโยชน์มาจนถึงทุกวันนี้ว่า “ไปถึงก็จะรู้เอง” ครับจนถึงปัจจุบันนี้ ผู้เขียนไปแม่ฮ่องสอนมาครบทุกฤดู สัมผัสมาครบทั้ง 3 หมอกตามชื่อเรียกของเมืองแม่ฮ่องสอนว่า“เมืองสามหมอก” เมื่อถึงตัวจังหวัดก็เข้าไปหาทักทายกับเพื่อนที่น่ารักของเรา จากนั้นก็หาที่พัก เราเจอรีสอร์ทที่เพิ่งเสร็จใหม่ๆ ชื่อ “ริมธาร รีสอร์ท”  อยู่ในเมืองราคาประหยัด (600บ./คืน) พอเย็นๆพอมองลายมือไม่เห็น เพื่อนเราก็มารับ พาไปเติมพลังก่อนจะออกมาเดินเล่นที่ “หนองจองคำ” ไม่เล่ารายละเอียดละ มีเยอะแล้ว เดินเล่นกำลังเพลินๆ ฝนก็กระหน่ำลงมาจนต้องกลับเข้าที่พักเป็นอันว่าเราต้องเข้านอนเร็วกว่าที่คิดไว้ แต่เช้าก็นัดกันไว้เวลา 6.00
น.จะพากันขึ้นดอย (อีกแล้ว)

เช้าอากาศเย็นสบายๆไม่ถึงกับหนาว เรานั่งอยู่บนกระบะที่กำลังมุ่งหน้าสู่ “ปางอุ๋ง” อุทยานแห่งชาติที่สวยงามมาก เราใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็มาถึงลานกางเต๊นท์พร้อมความว่างเปล่าของนักท่องเที่ยวซึ่งยังไม่ถึงเวลาของเขา เราพบกับนักเดินทางกลุ่มเล็กๆ กำลังถ่ายภาพอยู่ริมสันเขื่อนต่างเฝ้ารอการมาของหงส์ อย่างใจจดใจจ่อ

ข้าวต้มกาแฟร้อน เป็นมื้อเช้าที่เราได้อาศัยจากเจ้าหน้าที่ราคาไม่แพง อร่อย รวดเร็ว แล้วเราก็พบกับภาพสะเทือนใจจากความผูกพันของสุนัขที่มีต่อเจ้าของ เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่า เจ้าของย้ายออกไปจากอุทยานแล้วทิ้งเจ้าตัวนี้ไว้…ทุกวันนี้เจ้าตูบจะมานั่งรอเจ้าของด้วยความโหยหาในความรักที่มันมีต่อเจ้านายของมัน

สายๆพอแสงแดดเริ่มแรง เราก็พากันออกเดินทางอีกครั้งมุ่งหน้าไปยัง “บ้านรักไทย”หมู่บ้านบนดอยสูงเป็นที่อยู่ของชาวจีนจากกองพล93 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปนั่งชิมชา ชมวิวสักพักก็พากันกลับมายังแม่ฮ่องสอน เติมพลังจากก๋วยเตี๋ยวคนละชามบ่ายโมงพอดี ล่ำลากันเสร็จ ก็มุ่งหน้าจุดหมายต่อไป “ดอยอินทนนท์”

แวะนอนที่แม่แจ่ม

เราใช้เส้นทางจากแม่ฮ่องสอน–ขุนยวม ซึ่งมีระยะทางที่ยาวไกลพอสมควร แต่ความโค้งมีไม่มากเท่ากับขามาดังนั้นการเดินทางจึงเป็นไปแบบชิลๆ เราขับมาถึงก่อนเข้าขุนยวม จะเป็นแยกเข้าทุ่งดอกบัวตองก็เลี้ยวซ้ายวิ่งไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ ชมวิวไปตลอดสันเขา จนถึงทางแยกใหญ่ซ้ายไปทุ่งดอกบัวตอง เรายังไม่เข้า เพราะไม่ใช่จุดหมาย เรามุ่งหน้าตรงไป อ.แม่แจ่มใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงต่อมา เราก็มาถึง อ.แม่แจ่มเอาเวลาเกือบค่ำ เป้าหมายแรกคือหาที่พักนอนให้ได้ ตกลงคืนนั้นเราพักที่โรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งไม่หรูหรา แค่พออาศัย แต่สิ่งที่อยากจะบอกคือ พอค่ำแล้ว หาร้านอาหารยากมากดังนั้นถ้ามีโอกาสก็จัดการให้อิ่มท้องเข้าไว้

เช้าเราออกเดินทางกันแต่เช้ามืดเพื่อขึ้นดอยอินทนนท์ โดยใช้เส้นทางหลัก ออกจากแม่แจ่ม ก็ต้องพบกับความเสียหายของถนนที่เป็นหลุมไปเกือบตลอดเส้นทางจนถึงหน้าด่านขึ้นดอยอินทนนท์ ก็หยุดแวะเข้าห้องน้ำ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น การขับรถขึ้นดอยอินทนนท์นั้นรถเล็กๆ ก็สามารถครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นพวกรถแรงๆ อาศัยใจเย็นขึ้นไปเรื่อยๆถึงทางจะลาดชัน และยาวไกล แต่เราก็พบว่า มีรถแรงๆหลายคันต้องจอด ไม่ได้แวะถามซะด้วยว่าต้องจอดทำไม555

จุดสูงสุดของดอยอินทนนท์ จุดสูงสุดของสยาม ครั้งที่ 2 ของการเยือน แต่ก่อนจะถึง เราก็ได้แวะพักที่เจดีย์”นภเมทนีดล กับ นภพลภูมิสิริ .ชื่นชมความสวยงาม (เสียค่าเข้าชม)  บนดอยเราได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็นในช่วงต้นฤดูได้อย่างชัดเจนใช้เวลาเดินกินลมชมวิว และจิบกาแฟร้อนคนละถ้วย ก็ต้องโบกมืออำลายอดดอยอินทนนท์ลงมายังตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเตรียมเดินทางกลับ กทม.โดยแผนการเดินทางนั้นเราได้แวะพักกันที่จ.ตากเพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ อันเป็นผลจากการหลับใน

จบการเดินทาง“แอ่วเหนือ” 6 วัน 6 คืน 2 พันกว่ากม. 3 พันกว่าโค้ง อย่างราบลื่นขอให้นักเดินทางที่จะไปเที่ยวในหนาวนี้มีความสุขเหมือนกับที่เราได้สัมผัสกันมาครับสวัสดี

ปางอุ๋งวันนี้ ไม่ต้องจองไม่ต้องซื้อตั๋วแล้ว

ดอยอินทนนท์ จุดหมายของการเดินทาง

เรื่องราวระหว่างเส้นทาง

RELATED ARTICLES
- Advertisment -




Most Popular

- Advertisment -




Recent Comments