ใครว่าหน้าร้อนต้องไปทะเล ไม่จริงเสมอไปนะครับ อย่าเพิ่งไปเชื่อเรื่องแบบนั้น เพราะวันนี้เราได้รับมอบหมายภารกิจให้พาลุงกับป้าไปท่องเที่ยวยังดินแดนที่มีความสวยงามระดับประเทศ ได้รับการขนานนามว่าเป็น ”สวิสเมืองไทย” อันเนื่องมาจากภูมิประเทศ และสภาพอากาศที่ดีตลอดปี
MG 5 Turbo
สำหรับยานพาหนะที่เราจะใช้ เป็นรถยนต์สัญชาติอังกฤษ นามว่า MG ซึ่งในปัจจุบันได้มีการประกอบขึ้นในบ้านเรา จึงมั่นใจได้ถึงมาตรฐานฝีมือของคนไทย เมื่อรถมาจอดหน้าบ้าน ลุงออกมาเห็นถึงกับอึ้ง เพราะทีแรกบอกไว้ว่าจะเอารถขนาด 1.5 ลิตรไปนะ ด้วยความที่ลุงกับป้าตัวใหญ่ เลยคิดไปเองว่ารถคงจะคันเล็กๆ แคบๆ แต่พอได้เห็น MG5 Turbo เต็มๆตา ถึงเชื่อว่ารถกว้าง พอเปิดประตูเข้าไปนั่งก็ยิ่งเข้าใจคำว่า “กว้างกว่าเพื่อน” รถพร้อม ลุงกับป้าพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทาง โดยมีจุดประสงค์คือตามรอยละครทีวีไปดูดอกไม้ที่ไร่อุ่นรัก(สวนบิ๊กเต้) ระยะทางประมาณ 150 กม.เท่านั้น เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัว คำถามก็เริ่มทันที รถคันนี้ราคาเท่าไร เครื่องยนต์แบบไหน เกียร์อะไร และ อื่นๆ อีกมากมาย เพราะความที่ลุงกับป้าเพิ่งจะได้รู้จักรถ MG รุ่นใหม่ แถมยังผลิตในประเทศไทยอีกด้วย ถ้าเช่นนั้นเรามาช่วยกันค่อยๆ ตอบคำถามลุงกับป้ากันนะครับ รถ MG 5 คันนี้เป็นรุ่น TOP ครับ หลังคา ที ซันรูฟ สามารถเปิดให้แสงส่องผ่านเข้ามาเฉยๆ หรือจะเปิดยกขึ้นให้สุดเมื่อต้องการสัมผัสกับความสดชื่นของอากาศรอบตัวในระหว่างการเดินทาง
MG5 เป็นรถที่ประกอบในประเทศไทย โดยคันที่ขับอยู่นี้ราคาเพียง 7.5 แสนบาทเท่านั้น เมื่อเทียบกับรถในขนาดเดียวกันล้วนมีราคาสูงกว่าล้านบาทขึ้นไปทั้งสิ้น นอกจจากนั้น เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 129 แรงม้าที่กำลังพาเราไปเที่ยวอยู่นี้ สามารถเติมน้ำมัน E85 ได้ ช่วยชาติและช่วยกระเป๋าเราดีจริงๆ ลุงช่วยเสริมในตอนท้าย ขับเพลินๆ มาถึงร้านข้าวแกงบ้านสวน เลยชวนกันแวะกินข้าวราดแกงอร่อยๆ รองท้องกันก่อน
ห้องโดยสารกว้างสุดใจ
เหลือระยะทางอีกไกล หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว การเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น ลุงกับป้านั่งกันสบายมาก แม้จะตัวโต แต่ด้วยความกว้างของห้องโดยสาร เบาะหนานั่งนุ่ม จึงไม่ทำให้ลุงกับป้าต้องอึดอัด คำถามเดิมยังตอบไม่หมด คำถามใหม่ก็มา “ลุงหลับได้ไหม” ได้ซิครับ ตามสบาย…
ระหว่างนี้ เราเองก็เริ่มจะปรับตัวให้เข้ากับรถได้ดีขึ้น แม้ระยะเวลาและระยะทางที่ผ่านมาเพียงแค่ร้อย กม.เท่านั้น พวงมาลัยที่มีขนาดวงใหญ่กำลังดี คอนโซลหน้าใช้งานง่าย ปุ่มไม่เยอะ ปลายนิ้วสามารถไล่ใช้งานได้ทุกตำแหน่ง ส่วนหน้าปัดเป็นจอกลม เข็มวัดรอบอยู่ทางซ้าย ความเร็วอยู่ขวา ส่วนจอแสดงข้อมูลการขับขี่จะอยู่ตรงกลาง ไม่มีเส้นกับแสงสีให้วุ่นวายครับ เห็นง่ายเข้าใจง่าย ปลอดภัยที่สุด เบาะนั่งเป็นอีกจุดที่แตกต่างจากรถทั่วไป เพราะ MG5 นี้ เบาะนั่งมีความหนานุ่ม นั่งสบาย ฝั่งผู้ขับขี่ยังสามารถปรับสูงต่ำได้อีกด้วย
หลังจากขับมาได้เกือบร้อย กม. เราก็จับความรู้สึกและอาการตอบสนองในการทำงานของส่วนต่างๆ ได้ดีขึ้นเป็นลำดับ ใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ บนจอ ที่พวงมาลัย ได้คล่องขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ขับรถมาจนใกล้จะถึงจุดหมาย แม้สภาพถนนจะขรุขระ มีเนิน ข้ามทางรถไฟ หรือแม้แต่เวลาวิ่งผ่านถนนที่กำลังซ่อมแซม ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังเป็นแบบปีกนกคู่ ช็อคอับและเหล็กกันโคลง ของ MG5 คันนี้ก็สามารถเก็บซับอาการกระแทกเอาไว้ ลุงกับป้าจึงยังหลังพักผ่อนกันอย่างสบาย
เมื่อเลี้ยวสุดท้ายเพื่อเข้าจอดยังหน้าสวนดอกไม้ ประตูทั้ง 4 บานก็ได้เปิดออกเพื่อรับความสดชื่นจากสภาพแวดล้อมที่สวยสดงดงาม ประตูหลังเปิดได้กว้าง การขึ้น/ลงของผู้โดยสารจึงทำได้อย่างสะดวกง่ายดาย
ช่วงเวลาที่ลุงกับป้าออกไปเดินเล่น ชมนกชมไม้อยู่นั้น เราก็ได้สังเกตเห็นความลงตัวของเส้นสายการออกแบบตัวรถ จากโลโก้ MG ที่กระจังหน้า รับด้วยสันบนฝากระโปรง ไล่ยาวไปจนถึงฝาท้าย ส่วนเส้นข้างตัวถังที่นอกจากจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับตัวรถแล้ว ยังมีผลในการลดแรงเสียดทานของกระแสลมได้อีกด้วย ไฟท้ายขนาดใหญ่ มองเห็นได้อย่างชัดเจน ฝาท้ายเปิดได้กว้าง สามารถเคลื่อนย้ายสัมภาระขึ้นหรือลงได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อก้มดูที่ล้อ เห็นแม็กขนาด 16 นิ้ว คู่กับยาง 205/55R16 ที่มีทั้งความนุ่มนวลและการยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยม เบรกที่ให้มาก็เป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบช่วยป้องกันล้อล๊อค ABS ควบคุมรถได้แม้ขณะเบรกอย่างรุนแรง
ถึงเวลากลับบ้าน
ใช้เวลานานนับชั่วโมง จนเย็นค่ำ ลุงกับป้าจึงกลับบ้าน แสงไฟหน้าจากชุดโปรเจคเตอร์ให้ลำแสงที่ชัดเจน ช่วยในการขับขี่ยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี แม้สภาพรอบตัวจะมืดสนิดก็ตาม คำถามชุดสุดท้ายที่ลุงถามเราในวันนั้นคือ MG5 มีกี่สี แล้วราคาเท่าไร…
MG5 ที่ดูไว้ มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี 4 รุ่น แบ่งเป็นรุ่นธรรมดาไม่มีเทอร์โบ 2 รุ่นคือ 1.5L ธรรมดา กับมี sunroof กับรุ่น 1.5 Turbo D และ X sunroof โดยมีราคาเริ่มตันที่ 649,000.00-759,000.00 บาท ระยะทางไปกลับกว่า 300 กม. กับการขับรถที่มีพละกำลังทำให้รู้สึกสนุกตลอดการเดินทางก่อนจะส่งลุงกับป้าถึงบ้านอย่างมีความสุข
