สร้างความตื่นตลึงให้กับวงการรถยนต์ในเมืองไทยมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อ MG เผยโฉมรถ SUV ที่เหมาะสมสำหรับทุกครอบครัว ห้องโดยสารกว้าง สนุกสนานทุกการเดินทาง และต้องมีราคาสมเหตุสมผล
เวลาผ่านไปไม่นาน ค่าย MG ก็ได้ปรับโฉมใหม่ให้กับ ZS เน้นความฉลาดมากขึ้น ขับสนุกขึ้น และที่สำคัญ ต้องสวยขึ้น
MG ZS Smart จากรุ่นเดิมที่ว่าสวยแล้ว เมื่อมีการปรับปรุงใหม่ ไฟหน้าจึงเป็นจุดแรกที่เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงให้มีความใหลลื่นเป็นแนวเดียวกับกระจังหน้าแบบรังผึ้งมาพร้อมกันชนที่ออกแบบใหม่ หรูหรามีระดับยิ่งขึ้น
ชุดไฟตัดหมอกขนาดใหญ่เสริมความดุดันอยู่ที่มุมทั้ง 2 ข้าง ชายกันชนเพิ่มความเท่ด้วยแผ่นกันห้องเครื่องยนต์ ดันให้ความเป็นรถ SUV เด่นชัดยิ่งขึ้น แม้มุมมองจากทางด้านข้าง จะยังไม่เปลี่ยนมากนัก แต่เราก็ยังได้เห็นกาบข้างชุดใหม่มาแทนที่ของเดิม
ด้านหลัง สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือชุดไฟท้ายใหม่ที่ออกแบบมาให้เข้าชุดกับไฟหน้า เล่นกับความเรียบง่าย แต่ดูมีพลัง แนวแสงจัดให้เห็นเด่นชัดทั้งไฟเลี้ยว ไฟท้าย และไฟเบรค จึงมั่นใจได้เรื่องความชัดเจนเมื่อต้องเดินทางในเวลากลางคืน เสาอากาศแบบครีบฉลามประสิทธิภาพสูง ถูกติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานจากโรงงาน
ภายในห้องโดยสาร
การออกแบบยังความความหรูหรา ทันสมัย พร้อมเปลี่ยนหน้าจอมอนิเตอร์ใหม่ หน้าจอ TOUCHSCREEN ขนาด 10 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะเพิ่มขีดความสามารถสูงขึ้น รวมกิจกรรมทั้งหมดไว้บนหน้าจอเช่น ระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง แผนที่นำทาง เป็นต้น พวงมาลับทรงสปอร์ทจับกระชับมือ
มาพร้อมปุ่มมัลติฟังชั่น ปรับเปลี่ยนระบบหรือเรียกดูข้อมูลหน้าจอได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส พวงมาลัยไฟฟ้ามาพร้อมโหมดการปรับน้ำหนักพวงมาลัย เลือกสรรได้ถึง 3 โหมด เพื่อทุกสภาพ การขับขี่ใน COMFORT / NORMAL / SPORTS. และยังสามารถปรับน้ำหนักตามความเร็วของรถได้อีกด้วย เพื่อให้ทุกการขับขี่เร้าใจยิ่งขึ้น และยังเสริมทัพด้วยระบบช่วยเหลือต่างๆ ให้มากขึ้น ฉลาดขึ้นอาทิเช่น ระบบ ที่ช่วยให้คุณกับรถคุยกันได้ ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถเรียนรู้ทุกการใช้งานของคุณ (Machine Learning) พร้อมรายงานข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์แบบ Real Time สามารถเรียนรู้จากคำสั่ง และการใช้งานของคุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งสามารถค้นหาโรงแรม ร้านอาหารพร้อมสนุกกับเสียงเพลง แบบสตรีมมิ่งได้ไม่รู้จบ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้เสมอ ให้คุณสามารถสั่งการฟังก์ชันต่างๆ ผ่านทั้ง 3 ช่องทางอัจฉริยะคือ
THAI VOICE COMMAND
ระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย เพียงพูดว่า“ฮัลโหล เอ็มจี” แล้วตามด้วยคำสั่งการทำงาน
i – SMART ON TOUCHSCREEN
ระบบสั่งการผ่านจอทัชสกรีน ถ่ายทอดทุกคำสั่ง เพียงปลายนิ้วสัมผัสลงบนจอทัชสกรีนบริเวณคอนโซลกลาง
i-SMART MOBILE APP
ระบบสั่งการผ่านแอพพลิเคชัน บนสมาร์ทโฟนที่สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารกับรถได้จากทุกที่ ทุกเวลา
เบาะนั่งทูโทน น้ำตาล/ดำ นั่งกระชับทุกการเดินทาง และสิงที่ยังคงมีให้มาเป็นมาตรฐานคือ หลังคาแบบ PANORAMIC SUNROOF ที่สามารถเปิด – ปิดด้วยไฟฟ้าได้ถึง 8 ระดับ
สมรรถนะแน่นเต็มสูบ ด้วยเครื่องยนต์ เบนซินแบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VTi – TECH ปริมาตรกระบอกสูบ 1,498 ซีซี. เส้นผ่านศูนย์กลางกระบอกสูบ x ระยะชัก (มม.) 75 x 84.8
อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 จ่ายน้ำมันเคชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้แบบหัวฉีดมัลติพอยท์
ให้กำลังสูงสุด (กิโลวัตต์ (PS) / รอบต่อนาที) 84 (114) / 6,000 และ แรงบิดสูงสุด (นิวตัน – เมตร / รอบต่อนาที) 150 / 4,500
ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 Speeds โดยมี อัตราทดเกียร์อยู่ที่ 2.453 – 0.396
อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 2.580:1 อัตราทดเฟืองท้าย 5.730:1 ขับเคลื่อนล้อหน้า ลงพื้นด้วยล้ออัลลอยด์ 17″ กับยางขนาด 215 / 50 R17
ลองกับถนนจริง
ต้องเตือนความจำกันสักเล็กน้อย เมื่อวันที่เราได้เห็น MG ZS โฉมแรกนั้น รถรุ่นนี้ก็นับว่าเด่นบนท้องถนนไม่น้องแล้ว เมื่อวันที่เราไปรับ ZS โฉมใหม่ เรายิ่งรู้สึกถึงความสวยที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มไปทางรุ่นใหญ่อย่าง HS ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก เปิดประตูขึ้นไปนั่ง กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ แม้เสียงเครื่องยนต์จะเงียบมาก แต่ยังมีให้ได้ยินซึ่งในความรู้สึกของผม ถ้ามันเงียบกว่านี้จะหมดสนุกเวลาขับจริงๆ นะ
หลังจากปรับตำแหน่งให้เข้าที่แล้ว เราก็เริ่มออกเดินทางแบบไม่กำหนดจุดหมาย เพราะอยากขับไปเรื่อยๆ ไม่รีบ เข้าเกียร์ D รถมีอาการรับรู้เล็กน้อย เมื่อปล่อยเบรค คราวนีร้เสียงเครื่องยนต์เปลี่ยน แสดงออกเหมือนกับจะบอกเราว่า”ปล่อยเบรคให้หมดแล้วกดคันเร่งไปเลยครับ” ซึ่งความรู้สึกเป็นแบบนั้นจริงๆ และเมื่อรถเคลื่อนไปแล้ว ความสนุกของการขับขี่ก็มา พวงมาลัยแม่นยำมาก มุมเลี้ยวคม เข้าออกช่องเวลาแซงได้อย่างที่ต้องการ ช่วงล่างแน่นๆ ไม่ดีด
เมื่อคุ้นกับอาการรถ เราก็เริ่มสนใจการปรับตั้งระบบต่างๆ ของรถผ่านปุ่มมัลติฟังชั่นที่พวงมาลัย รวมถึงที่จอมอนิเตอร์ ใช้เวลาสืบเสาะช่องทางเข้าหาการทำงาน และการปรับตั้งไม่นานก็เริ่มจะเข้าใจระบบ (เสียดายไม่ได้ลองระบบสั่งงานด้วยเสียง เนื่องจากอาการไอที่ติดตัวอยู่เวลานั้น ทำให้ไม่สะดวก)
ภายในห้องโดยสารนั่นให้ทัศนะวิสัยที่โล่งกว้าง มองได้รอบตัว ส่วนด้านหลัง เราสามารถปรับเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังได้ด้วยการพับเบาะแถวสองครับ
การหยุดคือหัวใจของความปลอดภัย MG ZS ให้ดิสก์เบรคมาครบทั้ง 4 ล้อ จึงหยุดได้แบบไม่ต้องหว่งอะไรกันเลย
วิ่งใช้งานนอกเมือง ในเมือง น้ำมันE85 เราได้อัตราสิ้นเปลืองอยู่แถวๆ 12 กม/ลิตรครับ กับการเปิดแอร์เย็นฉ่ำ สำหรับเครื่องขนาด 1.5 ลิตร ตัวถังขนาดใหญ่ นั่งสบายแบบนี้ ถือว่ากลางๆ ไม่โหดร้ายต่อกระเป๋าสักเท่าไร
สำหรับใครที่กำลังมองหารถ SUV ขนาดกลาง ที่ใช้งานได้คลอบคลุมทั้งทำงาน ขับไปเที่ยว แม้แต่การเดินทางผจญภัยเล็กๆ MG ZS โฉมใหม่ น่าจะเป็นคำตอบที่น่าสนใจโดยเฉพาะราคาค่าตัวที่เป็นมิตรอย่างยิ่ง
สุดท้ายต้องของขอบคุณ MG ประเทศไทย และทีมประชาสัมพันธ์ทุกท่านครับ