Wednesday, March 19, 2025
HomeไปไหนมาNew Mitsubishi Pajero Sport หนึ่งในรถ SUV ที่ไม่ควรมองข้าม

New Mitsubishi Pajero Sport หนึ่งในรถ SUV ที่ไม่ควรมองข้าม

 

หลังจากที่เปิดตัวมาหลายปี ก็ถึงเวลาที่ Pajero Sport จะต้องได้ปรับโฉมกันสักหน่อย เพื่อให้ทันสมัย ดูดียิ่งขึ้น และวันนี้ ทีมautofreestyle ก็ได้เข้าร่วมในการทดลองขับ แม้จะระยะทางสั้นๆ แต่เส้นทางที่เลือก ทำให้ได้สัมผัสกับสมารรถนะ ความสะดวกสบาย

 

พบกันแต่เช้า ที่จุดนัดพบของการเดินทาง เพื่อทดลองขับในเส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งกระจาน-หัวหิน ซึ่งหลังจากที่เราได้รับข้อมูลของตัวรถ เรื่องการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมจากทีมเจ้าหน้าที่ของมิตซูบิชิแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทาง

 

เดินชมรอบคัน

โฉมใหม่ของมิตซูปาเจโร่ สปอร์ตใหม่นั้น ได้รับการออกแบบให้มีความสวยงามพร้อมเพิ่มความโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ที่มากับความสว่างสดใสของหลอด LED  ที่กันชนได้เพิ่มชุดไฟเลี้ยว ไฟตัดหมอก และไฟช่วยในขณะเลี้ยว โดยได้จัดวางไว้เป็นชุดเดียวกัน ล้อแม็กใหม่ ขนาด 18 นิ้วเพิ่มความเข้มให้กับความเป็นรถSUV ได้มากยิ่งขึ้น

ปิดท้ายด้วยชุดไฟท้ายใหม่ที่ให้เป็นหลอดLED เข้มชัดเจนมองเห็นได้ในระยะไกลเดินมาถึงทางด้านท้ายนรถแล้ว ก็ต้องลองระบบอำนวยความสะดวกใหม่ที่ช่วยให้สามารถเปิดฝาท้ายด้วยไฟฟ้า เพียงใช้ปลายเท้ายื่นไปในตำแหน่งที่กำหนดเท่านั้น

 

ไม้แรกเราขอเป็นผู้โดยสาร

ไม่รีบๆ ตกลงกับเพื่อนร่วมทางได้แล้ว ว่าช่วงแรกของการเดินทาง จะขอเป็นผู้โดยสาร เพื่อจับอาการของรถ รวมถึงลองใช้งานบรรดาอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้มากมาย แน่นอนว่าสิ่งที่ถูกใจมากอันดับต้นๆ คือ การที่เบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารนั้นได้รับการดูแลเอาใจใส่ให้ระบบไฟฟ้ามาเช่นเดียวกับผู้ขับขี่

เริ่มจาก คอนโซนใหม่ ที่ความเรียวมากขึ้น ช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างช่วงหัวเข่าให้มากยิ่งขึ้น ทำให้ลดอาการเมื่อยล้าไปอย่างมากทีเดียว จอ LCD ขนาด 8 นิ้ว เมนูไทย เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ด้วย Apple CarPlay สะดวกขนาดไหน ต้องไปลองด้วยตัวเองเลยครับ ระบบปรับอากาศ ใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยการรับมาใช้จอดิจิตรอลแยกผู้โดยสารและผู้ขับขี่ แต่ปุ่มหมุนยังอยู่เพื่อให้สามารถปรับได้โดยที่ไม่ต้องละสายตาจากการจราจร

เมื่อเป็นผู้โดยสารก็ต้องเป็นให้คุ้ม เพราะเบาะนั่งของปาเจโร่ สปอร์ตใหม่นั้น ออกแบบมาให้รองรับกับสระได้อย่างลงตัว ช่วงล่างหน้าหลังเหมือนเดิมที่แม้จะไม่ได้ปรับใหม่ แต่นั่งสบายขึ้น ไม่มีอาการย้วยหรือดีดเช่นเดิม สืบได้ความมาว่า เป็นผลมาจากการยกเลิกยางอะไหล่ ที่ช่วยให้รถเบาขึ้นอีกกว่าร้อยกิโลกรัมเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องห่วงเพราะมิตซูฯได้เปลี่ยนมาให้ชุดฉุกเฉินสำหรับปะยางมาให้

มองไปที่ด้านหลัง เราพบกับจอมอนิเตอร์ใหม่ขนาด 12.1 นิ้ว มาเพิ่มความบันเทิงให้กับผู้โดยสารด้านหลัง

 

เปลี่ยนไปขับบ้างซิครับ

นั่งเล่นเพลินๆ มาถึงจุดพักรถ เราก็เปลี่ยนมาเป็นผู้ขับบ้าง  ปรับเบาะ ขยับพวงมาลัยให้อยู่ในตำแหน่งเรีบร้อยแล้ว ก็เริ่มเดินทางกันเลย ความรู้สึกแรกคือ พวงมาลัยหนัก อาจจะหนักมากสำหรับผู้หญิง แต่ขับไปได้สักพัก มันก็ลืมความรู้สึกนั่นไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะเราคุ้นเคยกับน้ำหนักของพวงมาลัยรถนั่งเล็กๆมานานก็เป็นได้

เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบอินเคอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงถึง 181 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ออโต 8 สปีด ตอบสนองได้รวดเร็ว วงเลี้ยวคมไม่ย้วยไม่โยนให้เหนื่อยแรงครับ

และแล้วเราก็ต้องไปสร้างโป่งเทียมให้สัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยเฉพาะผีเสื้อที่เป็นจุดเด่นของบ้านกร้าง โดยจุดหมายจะอยู่ที่ป่าคมกฤต แต่เส้นทางที่เข้าไปนั้น เราต้องผ่านทางดิน และบางจุดจะต้องวิ่งผ่านลำน้ำธรรมชาติ ซึ่งในเส้นทางนี้ เรามีเจ้าหน้าทีนำทางเข้าไป จึงมันใจได้ว่าจะไมท่สร้างความเสียหายให้กับธรรมชาติอย่างแน่นอน

เส้นทางดินและน้ำ ทำให้เราได้ลองใช้ระบบขับเคลื่อน4ล้อ ที่มีให้เลือกใช้งานถึง 3 ระดับคือ 4H เป็นระบบขับเคลื่อน 4ล้อ แบบ Full-Time ที่เหมาะสำหรับถนนเปียกลื่น การแบ่งกำลังในอัตราส่วน 40%/60%

ระบบขับเคลื่อน 4HLc จะปรับการส่งถ่ายกำลังเป็น 50%/50% เท่ากันตลอดเวลา เหมาะสำหรับเส้นทางทุระกันดาร

ระบบขับเคลื่อนแบบ 4LLc จะเป็นการแบ่งกำลัง 50%/50% พร้อมทั้งยังทดกำลังเพิ่มในชุดเกียร์ทรานเฟอร์ เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับเคลื่อนบนเส้นทางทุระกันดาร หลุมบ่อหรือโคลน และไม่ควรใช้ความเร็วเกินกว่า 70 กม/ชม. นอกจากนั้น ยังมีระบบ Differential Lock ล๊อคเฟืองท้ายหลังด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้กำลังส่งไปยังล้อทั้ง 2 ข้างเท่ากัน เพื่อเอาชนะเส้นทางทุระกันดารได้อย่างง่ายดาย

เส้นทางที่เราใช้ แค่ 4H ก็เพียงพอกับความต้องการสามารถเดินทางไปถึงจุดที่จะทำโป่งเทียมได้แล้วครับ

เสร็จสิ้นภาระกิจโป่งเทียมแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยังที่พักที่อำเภอหัวหิน เป็นอันเสร็จสิ้นการทดลองขับ  New Mitsubishi Pajero Sport ในครั้งนี้ ซึ่งตลองเวลาที่อยู่ในรถคันนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารหรือผู้ขับขี่นั้น บอกได้เลยว่าสบายทั้งคู่ ขับก็วง่าย นั่งสบายกว่า ทัศนวิสัยรอบคันชัดเจน เบรคไว้ใจได้ เด่นที่ระบบกันสะเทือน เสียงเครื่องยนต์เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารไม่มากเท่าไร

สิ่งที่ยังอยากให้เปลี่ยนคือ ความหนืดของคันเกียร์ ขณะที่เราต้องเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ หากปรับให้คล่องตัวกว่านี้จะดีมาก

สุดท้ายต้องขอขอบคุณมิตซูบิชิ มอเตอร์(ประเทศไทย) และทีมงานเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เปิดโอกาสให้ทีม autofreestyle ได้ร่วมในการเดินทางครั้งนี้

 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -










- Advertisment -