การเลือกรถให้ถูกใจทุกคนได้ก็น่าจะต้องเป็นรุ่นนี้เท่านั้น แต่เดิมเราอาจจะมองข้าม innova เพราะภาพลักษณ์ที่ออกมาตั้งแต่รุ่นแรก จะดูเป็นรถกระบะ เสียงเครื่องยนต์ดีเซล ช่วงล่างแข็ง ภายในที่เชยๆ ผ่านการแก้ไขปรบปรุง ทำให้การพัฒนาล่าสุดนี้ TOYOTA Innova ZENIX เผยความโดดเด่นให้เห็นอย่างเต็มพิกัด ชนิดขโมยซีนรุ่นใหญ่อย่าง“Alphard”มาได้อย่างน่าชื่นชม
ระยะเวลา4วันที่จะได้ขับรถคันนี้ ผมว่าจริงๆแล้ว แค่ได้ขึ้นไปขับสักชั่วโมง ความอยากได้ก็เกิดขึ้นได้แล้ว เพราะด้วยรูปร่างภายนอกที่ดูภูมิฐาน ออกแบบมาได้อย่างลงตัว กระจังหน้าขนาดใหญ่ เล่นกับโครเมี่ยมสลับดำ ไฟหน้าแบบ Fill LED จัดชุดมาพร้อมไฟตัดหมอกทรงกลม ช่วยเสริมความชัดเจนในขณะขับขี่ช่วงเวลากลางคืน
กระจกรอบคันมีขนาดใหญ่ เพิ่มทัศนะวิสัยให้มากขึ้น รถดูโปร่ง นั่งสบาย กระจกมองข้างอยู่บริเวณหูช้าง แม้จะไม่บดบังการมองเห็น แต่ทำให้เกิดเสียงลมเข้ามารบกวนได้มากพอสมควร(ดูจะเป็นจุดเล็กๆ แต่ชัดเจน เพราะตัวห้องโดยสารเงียบมากนั่นเอง) ประตูทั้ง 4บานยังเป็นแบบเปิดออกข้างเหมือนรถยนต์ทั่วไป ถ้าได้ประตูสไลด์มาละก้อนะ 555 ส่วนฝาท้าย ออกแบบมาให้เปิดขึ้นได้สูง เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสัมภาระต่างๆ
ภายในห้องโดยสาร ออกแบบและจัดวางตำแหน่งต่างๆได้ดี ไม่ต้องเน้น“ว้าว” แค่ใช้งานได้คล่อง ง่าย และไม่วุ่นวาย คันเกียร์วางไว้ทีคอนโซลในแนวเอนๆ เพื่อให้มีพื้นที่ว่างระหว่างเบาะคู่หน้ามากยิ่งขึ้น จอกลางขนาดใหญ่ ไม่ซับซ้อน เน้นให้ฟังเพลงเพลินๆ แต่ถ้าต้องการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ก็พร้อม จอหน้าปัทม์เป็นดิจิตอล สีสันชัดเจน แสดงรายละเอียดได้ครบถ้วน
เบาะนั่งหนังรูระบายอากาศ ขึ้นรายไว้สวยดี นั่งสบาย เหมาะกับการขับไกลๆ เบาะแถว 2 เป็นแบบแยกอิสระแบบ Captain Seat และโต๊ะส่วนตัวพับได้เพื่อให้มีช่องเดินตรงกลาง ปรับเดินหน้าถอยหลังได้เยอะ ทั้งนี้เพื่อให้เบาะแถวที่สามสามารถเข้าออกได้สะดวกอีกด้วย ส่วนเบาะแถวสาม แม้จะไม่อลังการ แต่ใช่ว่าจะนั่งจริงไม่ได้นะ พิสูจน์มาแล้ว ตัวโตๆ เข้าไปนั่งได้จริงๆ และถ้าต้องการพื้นที่สำหรับสัมภาระเพิ่ม ก็ยังสามารถพับเบาะแถวที่สามนี้ลงได้อีกด้วย
เครื่องยนต์กลไก Toyota Innova Zenix เลิกใช้เครื่องยนต์ดีเซล หันมาใช้เครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร M20A-FXS Dual VVT-i ใหม่ล่าสุดทรงพลัง ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ e-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 21.3 กม./ลิตร* (*อ้างอิงจาก ECO Sticker) พร้อมความปลอดภัยเหนือระดับด้วย Toyota Safety Sense เจเนอเรชันที่ 3
เมื่อไปใช้เครื่องยนต์เบนซิน ดูจะสร้างความวิตกกังวลให้กันคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะสู้ค่าเชื้อเพลิงไหวไหม…..!!! ซึ่งเอาเข้าจริง ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ขับได้ อยู่ที่ประมาณ 16-20 กม/ลิตรกันเลย สาเหตุที่ประหยัด เพราะมีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยขับเคลื่อนด้วยนั่นเอง ทำให้ขณะออกตัว เครื่องยนต์แทบจะไม่ต้องออกแรงมาก และยังช่วงลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้อีกต่างหาก
ระบบกันสะเทือน ระบบกันสะเทือนล้อหน้าแบบอิสระ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนล้อหลังแบบ Torsion Beam พร้อมเหล็กกันโคลง จัดว่าเป็นหัวใจของรถแนว MPV ที่ต้องเดินทางไกล มีความนุ่มนวล เก็บอาการต่างๆ จากพื้นถนนเอาไว้ ซึ่งผู้โดยสารจะต้องมีความสบายมากที่สุด จะบอกว่ารถคันนี้ ให้ช่วงล่างมาดีถึงดีมาก จะวิ่งทางไฮเวย์หรือถนนหมู่บ้านก็นุ่มนวล ไม่มีกระโดดโลดเต้นให้เสียอารมณ์ บ้านใครที่กำลังมองหารถเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว หรือสำหรับผู้สูงอายุ คันนี้น่าจะเหมาะสมที่สุดในทุกมิติ กับราคาค่าตัวที่ล้านกลาง ได้รถที่ตอบโจทย์ความต้องการได้เกือบครบถ้วนขนาดนี้
สุดท้ายต้องขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย และทีบประชาสัมพันธ์ทุกท่านที่ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกเสมอมา
เป็นเจ้าของรถ อินโนวา ซีนิกซ์ ใหม่ ได้ 2 รุ่น 4 สี
> สีดำ Dark Steel Mica > สีขาว Platinum White Pearl*
> สีดำ Attitude Black Mica > สีเงิน Silver Metallic
