เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยเชิญสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมการแข่งขันแรลลี่ในกรุงเทพฯ เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับครูซ โฉมใหม่ที่ได้รับการยกระดับความหรูหราและเทคโนโลยีใหม่ การออกแบบภายนอกและภายในที่ทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมเน้นย้ำสมรรถนะการขับขี่อันเหนือชั้นของรถซีดานรุ่นนี้
คุณอุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประสบการณ์ลูกค้า เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยกล่าวก่อนเริ่มกิจกรรมการทดสอบขับว่า “ครูซ โฉมใหม่ได้รับการพัฒนาเพื่อผู้ขับขี่ตัวจริงเช่นคุณ”
“ครูซ โฉมใหม่นี้เป็นรถสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการสมรรถนะที่เหนือชั้นและห้องโดยสารที่หรูหรา เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ทางไกลและฝ่าการจราจรที่หนาแน่นในเมือง ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำรถคอมแพ็กต์ซีดานที่มียอดขายทั่วโลกสูงสุดของเชฟโรเลต” คุณอุณากล่าว
สื่อมวลชนจะได้ขับ”อะเมซิ่ง นิว เชฟโรเลต ครูซ” ร่วมกิจกรรมแรลลี่ทั่วกรุงเทพฯ ทั้งถนนบนทางด่วนและถนนในเมือง เน้นย้ำสมรรถนะการควบคุมของครูซที่เหมาะสำหรับการขับบนถนนทางไกลและการจราจรหนาแน่นในเมือง สื่อมวลชนจะได้ร่วมทำภารกิจพิเศษตามสถานที่สำคัญพร้อมเก็บคะแนนเพื่อหาผู้ชนะเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขัน โดยมีพันธมิตร “เชฟวี่ พลัส” ของเชฟโรเลต ทั้งแมคโดนัลด์ อานตี้แอนส์และแบล็คแคนยอน ร่วมมอบความสนุกสนานในกิจกรรมครั้งนี้
“เชฟวี่ พลัส” เป็นหนึ่งในการบริการภายใต้โปรแกรมเชฟโรเลต คอมพลีท แคร์ มุ่งยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าและประสบการณ์ใช้งานรถที่ปราศจากความกังวล โดยมอบส่วนลดและฟรีการบริการจากพันธมิตรของเชฟโรเลต ทั้งแบล็คแคนยอน คอฟฟี เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ แมคโดนัลด์ อานตี้ แอนส์ บางกอก แอร์เวย์ส ไทยทิคเก็ต เมเจอร์และอื่นๆ อีกมากมาย
เชฟโรเลต คอมพลีท แคร์ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้คือโปรแกรมบริการหลังการขายระดับโลกที่มอบการบริการที่ครอบคลุม ได้แก่
• การช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
• การรับประกันสูงสุด 3 ปีหรือ 100,000 กม. สำหรับลูกค้าเชฟโรเลตใหม่ รวมถึงการดูแลรักษาโดยช่างเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญของเชฟโรเลต
• ศูนย์บริการเคลื่อนที่โดยช่างเทคนิคระดับมืออาชีพที่พร้อมซ่อมแซมและให้คำปรึกษา
• ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ เบอร์โทรศัพท์ 1734
• โปรแกรมเชฟวี่ พลัส มอบส่วนลดและฟรีการบริการจากพันธมิตรของเชฟโรเลต
เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับสมรรถนะของครูซ โฉมใหม่ที่รองรับทุกการใช้งาน เส้นทางการขับแรลลี่จะครอบคลุมทั้งบนทางด่วนและการขับขี่ในเมือง เน้นย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของครูซที่ตอบสนองต่อการขับขี่บนถนนโล่งยาวและฝ่าการจราจรหนาแน่น
ครูซ โฉมใหม่มาพร้อมกระจังหน้าดูอัลพอร์ทชุดใหม่ที่มีความทันสมัยยิ่งขึ้นและไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวัน (เดย์ไทม์รันนิ่งไลท์) แผงกันชนหลังใหม่ ไฟท้ายได้แรงบันดาลใจมาจาก คามาโร และสะดุดตาด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่ล่าสุด ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอทัชสกรีนสีขนาด 7 นิ้วรองรับระบบอินโฟเทนเมนท์ เชฟโรเลต มายลิงค์ พร้อมเทคโนโลยีแอพพลิเคชั่นในตัว เพิ่มประสิทธิภาพการสั่งงานด้วยเสียง และการเชื่อมต่อระบบเสียงผ่านบลูทูธ อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่มีความโดดเด่นเช่นกันคือการใช้สีภายในใหม่ สีดำ-น้ำตาลแดง ที่มีชื่อว่า “Saddle Up” สวิทช์ควบคุมต่างๆ ถูกจัดวางใหม่เพื่อความสะดวกง่ายดายในการใช้งานตามหลักการยศาสตร์
ใต้ฝากระโปรงของครูซบรรจุเครื่องยนต์คุณภาพเยี่ยม อีโคเทค 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) 16 วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ MPI (Multi-point Injection) และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง Double CVC (Double Continuous Variable Cam Phasing) ทั้งสองระบบทำงานร่วมกับท่อร่วมไอดีแปรผัน (Variable Intake Manifold) เพิ่มประสิทธิภาพระบบไอดีและไอเสียในทุกรอบเครื่องยนต์ ยกระดับสมรรถนะ ลดมลพิษไอเสียและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เครื่องยนต์มีพละกำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที เครื่องยนต์อีโคเทค 1.8 ลิตรยังรองรับเชื้อเพลิง E85 ทำให้ครูซเป็นรถแบบ “เอฟเอฟวี” (Flex-Fuel Vehicle) รองรับเชื้อเพลิงเบนซินทุกรูปแบบ ตั้งแต่เบนซินธรรมดาไปจนถึงเอทานอล 85 เปอร์เซ็นต์ นอกจากการลดมลพิษแล้ว ยังทำให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นในการเติมเชื้อเพลิงที่มีหลายระดับราคา
หัวใจของศักยภาพเครื่องยนต์ E85 ในครูซโฉมใหม่คือการปรับปรุงซอฟต์แวร์และกล่องควบคุมอีซียู (Electronic Control Uni) เพื่อให้แน่ใจว่าครูซสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยเชื้อเพลิงตั้งแต่ E0 (เบนซินทั่วไป) ถึง E85 (เบนซินผสมเอทานอล 85 เปอร์เซ็นต์) คอมพิวเตอร์ในครูซทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์หลายตัว หัวฉีดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและระบบจ่ายเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพในการตรวจจับปริมาณเอทานอลในเชื้อเพลิง พร้อมกับปรับการไหลของเชื้อเพลิงและปรับจังหวะการจุดระเบิดได้ตลอดเวลา
ครูซ โฉมใหม่ยังคงใช้ระบบทางเทคนิคส่วนใหญ่เหมือนรุ่นก่อน แต่สำหรับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด GF6 เจนเนอเรชั่นที่ 2 ได้รับการปรับแต่งให้สัมผัสถึงการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลมากขึ้นและตอบสนองการขับขี่ได้ดีกว่าเดิม
ครูซ โฉมใหม่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมากมาย ทั้งระบบเข้าออกห้องโดยสารและสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้องใช้กุญแจหรือ PEPS (Passive Entry Passive Start) พวงมาลัยระบบไฟฟ้า รวมถึงสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ครูส คอนโทรล) บนพวงมาลัย นอกจากนี้ยังมีระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติและระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
สำหรับระบบความปลอดภัย ครูซมาพร้อมระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแบบแพสซีฟ ทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบป้องกันการลื่นไถลและกุญแจนิรภัยอิมโมบิไลเซอร์ ระบบความปลอดภัยแบบแพสซีฟครอบคลุมถึงตัวถังเหล็กกล้า คานนิรภัยด้านข้างที่ออกแบบมาเพื่อต้านทานแรงกระแทกพลังงานสูง
ราคาจำหน่ายของเชฟโรเลต ครูซ อยู่ที่ 946,000 บาท สำหรับรุ่น LT และ 998,000 บาท ในรุ่นสูงสุด หรือ LTZ