หลังจากที่มาสด้าได้เปิดตัวเจนใหม่ของรถ CX-5 มาได้ไม่นาน ก็ถึงเวลาของสื่อมวลชนจะได้ทดลองขับ สัมผัสตัวเป็นๆ กัน โดยมีการจัดแบ่งเป็นกลุ่ม ซึ่งทีม “autofreestyle” ได้เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้เป็นกลุ่มที่ 3 โดยวันแรกใช้เส้นทางเริ่มต้นที่จังหวัด อุบลราชธานี ไปยัง จังหวัดสระแก้วระยะทางรวม423 กม. และวิ่งเข้ากรุงเทพฯในวันสุดท้าย
สัมผัสแรก
ฟ้าสางที่อุบลราชธานี อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิไม่ถึง 20อาศา หลังจากที่จัดกลุ่มกันเรียบร้อย ก็ถึงเวลาจัดของขึ้นรถ ฝาท้ายเปิดและปิดด้วยไฟฟ้า เพียงกดปุ่มเบาๆเท่านั้น พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวางและยังสามารถขยายพื้นที่ได้เพิ่ม เพียงแค่พับเบาะนั่งด้านหลังลงเท่านั้น
เปิดประตูขึ้นมานั่งในห้องโดยสาร ก็จะพบกับรายละเอียดมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่และการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทว่ายังไม่เท่ากับระบบที่ช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ที่มองไม่เห็นด้วยสายตา แต่สามารถสัมผัสได้จากการขับขี่ ที่กำลังจะได้พบในลำดับต่อไป
ตารางเปรียบเทียบคุณลักษณะจำเพาะที่สำคัญ *ตัวเลขเป้าหมายของการพัฒนา
New CX-5 | รุ่นปัจจุบัน | ||
ความยาวรวม | มิลลิเมตร | 4,550 | 4,540 |
ความกว้างรวม | มิลลิเมตร | 1,840 | 1,840 |
ความสูงรวม | มิลลิเมตร | 1,680 | 1,710 |
ระยะฐานล้อ | มิลลิเมตร | 2,700 | 2,700 |
ความกว้างล้อหน้า | มิลลิเมตร | 1,595 | 1,585 |
ความกว้างล้อหลัง | มิลลิเมตร | 1,595 | 1,590 |
รัศมีเลี้ยวแคบสุด | เมตร | 5.5 | 5.5 |
ความยาวภายใน | มิลลิเมตร | 1,890 | 1,910 |
ความกว้างภายใน | มิลลิเมตร | 1,540 | 1,530 |
ความสูงภายใน | มิลลิเมตร | 1,265 | 1,280 |
เสียงเครื่องยนต์ดีเซลดังเบาๆ เมื่อยืนอยู่นอกรถ แต่จะเงียบมากเมื่อเข้ามาอยู่ในห้องโดยสารของ CX-5 พร้อมการสำรวจความหรูหราที่สัมผัสได้ ทั้งเบาะหนังดำด้านแดง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เน้นโครเมี่ยม ลำโพงชั้นเลิศ (เฉพาะรุ่น Top ทั้งสายเบนซิน และดีเซล)
ช่วงแรกของการเดินทาง ทำตัวเป็นผู้โดยสาร จาก จ.อุบลราชธานี ไปยังจ.สระแก้ว โดยในระหว่างทาง ได้มีจุดพักสลับเปลี่ยนให้ได้ทดลองขับ และในช่วงที่2 หลังจากพักเติมพลังกันแล้ว ก็ถึงคิวของ autofreestyle จะได้ขับละ เส้นทางเป็นถนนหลวง ทั้งเลข ตัวเดียว ลงไปถึงเลข 4 ตัว นั่นหมายความว่าเราจะต้องพบกับสภาพถนนเกือบทุกรูปแบบ การจราจรแม้จะไม่หนาแน่น แต่มากไปด้วยรถบรรทุก
เครื่องยนต์ดีเซล เครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 2.2 และเครื่องยนต์เบนซินแบบฉีดตรง SKYACTIV-G 2.0 เครื่องยนต์ทั้ง 2 ส่งผ่านกำลังไปยังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ i-ACTIV AWD ให้การตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว พลังพรั่งพรูออกมาเหมือนไม่มีหมด จากถนน 4 ช่องทาง ลดเหลือเพียงเลนสวน ต้องไล่ตามกลุ่ม ต้องพยายามแซงรวมถึงต้องเบรคเมื่อมีรถอื่นกำลังจะเข้าหรือออกจากถนน แน่นอนว่าความเร็วที่ใช้ต้องสูงพอสมควรเพื่อให้ทันกับขบวน แต่ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ กับระบบช่วยเหลือ
ลักษณะจำเพาะของเครื่องยนต์ SKYACTIV-D 2.2
SKYACTIV-D 2.2 | |
ความจุกระบอกสูบ | 2,191 ซีซี |
เส้นผ่านศูนย์กลางกระบอกสูบ x ระยะชัก | 86.0 มิลลิเมตร × 94.3 มิลลิเมตร |
อัตราส่วนกำลังอัด | 14.0 |
กำลังสูงสุด | 129 กิโลวัตต์ (175 PS) ที่ 4,500 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 420 นิวตันเมตร (42.8 กิโลกรัมเมตร) ที่ 2,000 รอบต่อนาที |
หมายเหตุ : ตัวเลขเป้าหมายของการพัฒนาสำหรับโมเดลที่มีจำหน่ายในญี่ปุ่นที่เป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและเกียร์อัตโนมัติ
“ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ GVC (G-Vectoring Control)” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแรกในอนุกรม SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ใหม่ของมาสด้า ด้วยการปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ตอบสนองต่อการทำงานของพวงมาลัยเป็นการควบคุมแบบผสมผสานระหว่างแรงเร่งด้านข้างและตามยาวของตัวรถโดยที่ก่อนหน้านี้ควบคุมแยกกัน และปรับโหลดในแนวดิ่งให้เหมาะสมที่ลงบนล้อแต่ละล้อ ระบบ GVC จะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ลดลงในขณะที่คนขับเริ่มหมุนพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนภาระให้กับล้อหน้า ช่วยเพิ่มความกระชับของล้อหน้าและเพิ่มความสามารถในการตอบสนองของรถ หลังจากนั้น เมื่อผู้ขับขี่รักษามุมพวงมาลัยคงที่ ระบบ GVC จะคืนแรงบิดของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติเพื่อถ่ายโอนภาระไปยังล้อหลังและช่วยเพิ่มเสถียรภาพของรถ การถ่ายโอนภาระนี้จะช่วยให้เห็นถึงพฤติกรรมของรถที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพซึ่งสอดคล้องกับการบังคับรถของผู้ขับขี่ในขณะที่ยังเพิ่มความรู้สึกว่ายางยึดแน่นอยู่บนถนนและให้ความรู้สึกปลอดภัยและความมั่นใจ ระบบ GVC มีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถเอสยูวี ซึ่งอาจจะมีแนวโน้มที่จะเกิดแรงกระทำด้านข้างรถอันเนื่องมาจากศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงที่ค่อนข้างสูง ช่วยให้ทั้งการตอบสนองและความมั่นคงของรถดีขึ้น ในขณะที่ยังช่วยลดการลื่นไถลออกด้านข้างของตัวผู้โดยสารในห้องโดยสารและช่วยให้นั่งสบาย
ด้วยสภาพเส้นทางและวิธีขับ ทำให้เรารู้ในทันทีว่าถ้าไม่มีระบบช่วยเหลือขั้นเทพเหล่านี้ มันจะมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากขึ้นอย่างแน่นอน แล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยนสุดท้าย ก็ถึงเวลาที่จะได้ลองนั่งในตำแหน่งของผู้โดยสารด้านหลัง ด้วยจุดเด่นของเบาะหลังที่สามารถปรับเอนได้ จึงช่วยลดอาการเมื่อยล้าเมื่อต้องนั่งเป็นระยะทางไกลๆได้ นอกจากนั้นความเงี่ยบของห้องโดยสารยังช่วยให้ผ่อนคลายไปกับเสียงเพลงโดยไม่ถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อม
จากการเดินทางที่เริ่มต้นที่จ.อุบลราชธานี เมืองชายแดนเขตติดต่อกับเพื่อนบ้าน สปป.ลาว
เราใช้เวลาไปกับความสนุกสนานในการขับ Mazda CX-5 มาจนถึงจ.สระแก้ว เมืองชายแดนเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา จากเพลงไทย เพลงลาวจนถึงเพลงเขมร สิ่งที่เราสัมผัสได้คือวัฒนธรรมของเรา แทบจะไม่แตกต่างกัน สื่อถึงกันได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับรถ Mazda CX-5 ที่เราได้ขับ แม้จะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ก็สามารถสื่อสารถึงกันได้เพียงคุณได้สัมผัสกับพลังการออกแบบ พลังจากเครื่องยนต์ และพลังจากเทคโนโลยี ของ KODO DSIGN
วันสุดท้ายของการทดลองขับ
เช้าวันรุ่งขึ้น เราได้เปลี่ยนรถ เป็นรุ่ยเบนซิน ซึ่งรายละเอียดของตัวรถนั้น หลักๆ จะใกล้เคียงกัน จะต่างกันคือเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ระบบกันสะเทือน ฯ
วันนี้เหลือระยะทางอีกไม่ไกล ก็เข้ากทม.แล้ว การขับขี่จึงได้ลองกันเพียงช่วงสั้นๆ แต่ก็เพียงพอจะทำให้ทราบถึงความแตกต่างระหว่างรุ่นดีเซล และรุ่นเบนซินได้เป็นอย่างดี โดยเครื่องยนต์เบนซิน
ลักษณะจำเพาะของเครื่องยนต์ SKYACTIV-G 2.0L
SKYACTIV-G 2.0 | |
ความจุกระบอกสูบ | 1,998 ซีซี |
เส้นผ่านศูนย์กลางกระบอกสูบ x ระยะชัก | 83.5 มิลลิเมตร × 91.2 มิลลิเมตร |
อัตราส่วนการอัด | 14.0:1 |
กำลังสูงสุด | 121 กิโลวัตต์ (165 พีเอส) ที่ 6,000 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 210 นิวตันเมตร (21.4 กิโลกรัมเมตร) ที่ 4,000 รอบต่อนาที |
หมายเหตุ : ตัวเลขเป้าหมายของการพัฒนาสำหรับโมเดลที่มีจำหน่ายในญี่ปุ่นที่เป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและเกียร์อัตโนมัติ
จะมีความนุ่มนวล เงียบ และราบลื่น สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานในเมือง หรือแม้แต่การขับขี่ทางไกล หากแต่ถ้านำมาเปรียบเที่ยบกับรุ่นดีเซลแล้ว สมรรถนะอาจจะเป็นรอง ในส่วนของอัตราเร่ง กับเทคโนโลยีบางส่วนเท่านั้นที่น้อยกว่า สำหรับระบบกันสะเทือน จะถูกปรับตั้งให้เหมาะสมกับความเร็วและน้ำหนักของตัวรถ จึงมีความแตกต่างกันพอสมควร แต่ทั้งคู่ก็ยังคงเน้นเรื่องการยึดเกาะถนน การทรงตัวที่ดี ไว้ได้อย่างเหยียวแน่น
ชั่วระยะเวลาเพียง 3 ชม. เท่านั้น ขบวน Mazda CX-5 ก็เข้ามาถึงยังจุดหมายปลายทางที่ร้านอาหาร YAWA ย่านรามคำแหง เพื่อส่งรถและเติมพลังให้กับผู้ร่วมเดินทางก่อนจะแยกย้ายกันไปทำภาระกิจของแต่ละคนต่อไป
สรุปก่อนกลับ เสียงส่วนใหญ่ รวมถึงตัวผู้เขียนเอง ลงความเห็นว่า CX-5 รุ่น ดีเซลจะเหมาะที่สุดทั้งในเมืองและเดินทางไกล สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะและความสนุกเร้าใจในการขับขี่ ส่วน CX-5รุ่น เบนซิน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาวๆ ที่ต้องการรถขนาดครอบครัวที่สามารถไปไหนก็ได้ บรรทุกสัมภาระได้มากมาย ขับสบายปลอดภัย
สุดท้ายต้องขอขอบคุณมาสด้า ประเทศไทยและทีมประชาสัมพันธ์ที่ดูแลอย่างดีตลอดการเดินทาง