Tuesday, September 10, 2024
HomeNew CarsORA 07 บอกผ่านสโลแกน More Than Stunning ยิ่งรู้จักยิ่งทัชใจ

ORA 07 บอกผ่านสโลแกน More Than Stunning ยิ่งรู้จักยิ่งทัชใจ

เหมียวๆๆ ที่ไม่ใช่แค่เรียกแมว แต่เป็นอัตลักษณ์ที่คนสร้างยานยนต์รุ่นนี้ขึ้นมาใหเห็นว่า ORA 07 | More Than Stunning ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ไฮเทคโนโลยีพรีเมียม แต่ครอบครองได้ไม่ยาก เรามารู้จักเจ้าเหมียว ORA 07 กันเลยดีกว่าว่าจะทัชใจแค่ไหนกัน

ORA 07 เจ้ารถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง เป็นรถยนต์รุ่น Flagship ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ ORA ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ออกแบบและถือกำเนิดขึ้นเพื่อสร้างกระแสความนิยมในหมู่ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบความโดดเด่น มีสไตล์ ไม่เหมือนใคร รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมากมาย ORA 07 ได้รับแรงบันดาลใจจากการผสมผสานองค์ประกอบทางธรรมชาติเข้าด้วยกัน ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยแรงบันดาลใจจากความพลิ้วไหวและความสง่างามของสายน้ำ กระจังหน้าถูกออกแบบตามความวับวาวบนผิวน้ำยามแสงตกกระทบ พร้อมสะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นเจ้าเหมียว ORA 07 เปรียบเสมือนงานศิลปะเมื่อหยุดนิ่ง แต่ทันทีที่เร่งสปีด จะมอบความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ด้วยเส้นโค้งที่ไหลไปตามมาตรฐานดีไซน์ทางอากาศพลศาสตร์ ตรงตามแนวคิดทางธรรมชาติที่เสมอภาค สงบ สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของธรรมชาติ ที่ไม่เหมือนใครอย่างเต็มที่ด้วยล้อรถที่มีลักษณะเหมือนอุ้งเท้าแมว สปอยเลอร์ไฟฟ้าที่ยกขึ้นอัตโนมัติเสมือนแมวที่พร้อมกระโจนเข้าสู่ทุกการผจญภัย ท้าทายทุกขีดจำกัดมาพร้อมกับไฟหน้าทรงกลมอันสดใส นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังให้ความรู้สึกแบบซุปเปอร์คาร์ มาพร้อมกับคอนโซลกลางรูปตัว T เสมือนการบรรจบกันของพื้นที่ราบและ ภูเขาสูง เบาะหนังที่ปราณีตพร้อมผิวสัมผัสแบบปุ่มเหมือนคีย์เปียโนยิ่งช่วยโอบอุ้มร่างกายของผู้โดยสารทำให้สัมผัสได้ถึงความสะดวกสบายและอบอุ่นอย่างเต็มที่ ด้วยการออกแบบอันละเอียดอ่อนของ ORA 07 จึงเกิดเป็นความลงตัวระหว่างรูปทรงที่โค้งมน ดูลื่นไหล และสปอร์ต รุ่นและสีรถยนต์ ของ ORA 07 มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น LONG RANGE และรุ่น PERFORMANCE แยกรุ่นด้วยสีรถภายนอก: มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ ขาว (Jade White) เทา (Amethyst Grey) และสีพิเศษ ม่วง (Crystal Purple) (เฉพาะรุ่น PERFORMANCE) และสีรถภายใน: สีน้ำตาล: ภายนอกสีม่วง / สีเทา และ สีดำ: ภายนอกสีขาว / สีเทา

มาทางฝั่งสมรรถนะของ ORA 07 สำหรับรุ่น PERFORMANCE มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ระยะสูงสุด 550 กิโลเมตร (NEDC Standard) และมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และในรุ่น LONG RANGE มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 340 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ระยะสูงสุด 640 กิโลเมตร (NEDC Standard) โครงสร้าง ORA 07 ใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูงถึง 77.6% ของส่วนประกอบทั้งหมด ได้แก่ เหล็กที่มีความแข็งแรงสูง 30.6% เหล็กที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ 29.4% และเหล็กขึ้นรูปร้อน 17.6% โดยการใช้งานโครงสร้างของเหล็กขึ้นรูปร้อน ได้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับพื้นที่สำคัญของยานพาหนะ เช่น เสา A เสา B ธรณีประตู คานด้านบน ช่องตรงกลาง และแผงหลังคา โดยในพื้นที่สำคัญเหล่านี้ เหล็กขึ้นรูปร้อนขั้นสูง 2000MPa จะถูกนำมาใช้สำหรับเสา A และ B ซึ่งภายในของเสา B จะรวมเอาวัสดุคอมโพสิตที่เสริมด้วยไฟเบอร์เข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้มั่นใจถึงความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพการโค้งงอที่ยอดเยี่ยม ปกป้องความปลอดภัยของผู้โดยสารจากการกระแทกจากด้านหน้า ด้านข้าง และหลังคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การออกแบบภายนอก (Exterior Design) ที่มาของจุดกำเนิด ORA 07 คือเป็นรถซีดานที่สรรค์สร้างมาด้วยรูปร่างซูเปอร์สตรีมไลน์ที่เป็นนามธรรมได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามการไหลของน้ำตามปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า “การไหลแบบลามินาร์” ซึ่งเมื่อน้ำนิ่งพบกับก้อนกรวดหินในลำธาร มันจะไม่เกิดการชนกัน แต่จะโอบอุ้มหินเหล่านั้นด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวล การดีไซน์ด้านหน้า ใช้การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ของรถซูเปอร์คาร์เพื่อเพิ่มแรงกด ฝากระโปรงหน้าทรงหยดน้ำที่เว้าลงและนูนขึ้นทั้งสองด้าน เมื่อรวมกับไฟหน้าทรงกลมแบบเรโทรทำให้เกิดเป็นความสปอร์ตอย่างเต็มพิกัดไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลมดีไซน์โดดเด่น ให้ความสว่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในทุกเส้นทางด้วยระบบอัจฉริยะ เช่น ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED การดีไซน์ด้านข้าง ได้รับการออกแบบให้หน้าต่างด้านข้างโค้งสูง มีเส้นโดยรอบทั้งคัน เน้นความหรูหราและความสปอร์ตเร้าใจ มาพร้อมหน้าต่างไร้กรอบที่เป็นกระจกแบบ 2 ชั้น เพื่อช่วยในเรื่องการซับเสียง โดยจะเลื่อนลงเมื่อเปิดประตู และเลื่อนปิดโดยอัตโนมัติเมื่อปิดประตู เพิ่มความสปอร์ตไปอีกขั้น

ดีไซน์ด้านหลัง ถูกออกแบบด้วยดีไซน์ Slip-Back ทำให้ตัวรถดูสปอร์ตขึ้น ด้วยรูปทรงที่ดูเพรียวบางจะช่วยลดแรงต้านลมและช่วยเสริมสมรรถนะของรถยนต์ ชุดล้อที่ยื่นออกมาเสริมให้ตัวรถดูหรูหราและมีมิติมากขึ้น เพิ่มความรู้สึกแข็งแกร่ง สปอยเลอร์ไฟฟ้ายังมาจากการออกแบบของรถสปอร์ต ผสานกับรูปทรงด้านหลังที่โค้งมนอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกของเทคโนโลยีอันล้ำสมัย แต่ยังคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้อย่างชัดเจน ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์โดดเด่นสะดุดตามาในรูปทรงวงรี ให้ความหรูหราและความสปอร์ตในเวลาเดียวกัน เมื่อรวมกับ สปอยเลอร์หลังไฟฟ้า ทำให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น หลังคาแก้วแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ (Panoramic Glass Roof) หลังคากระจกยาวตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย ทำให้ภายในห้องโดยสารดูโปร่ง และกว้างขวางขึ้น ประกอบกับตัวหลังคาเป็นกระจกที่ช่วยลดแสงและความร้อน อีกทั้งยังเป็นวัสดุที่ช่วยเก็บเสียงอีกด้วย สปอยเลอร์ไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติที่สามารถตั้งให้เปิดเมื่อปลดล็อกรถ หรือเมื่อความเร็วถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว มาพร้อมยางขนาด 235/45 โดยล้ออัลลอยของ ORA 07 ถูกออกแบบเหมือนรูปร่างของอุ้งเท้าแมวรูปแบบเฉพาะ ORA รวมถึงมิติตัวรถขนาดกว้างขวาง ถูกออกแบบด้วยลายเส้นโค้งที่พลิ้วไหว รวมความอิสระ ความสมบูรณ์ ที่มีมิติและสง่างาม สร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่รวมกับความงดงามที่สมดุลกับความสปอร์ต ความหรูหราและความทรงพลังอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยมิติตัวรถ 1,862 x 4,871 x 1,500 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,870 มม. ระยะความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) 125 มม. น้ำหนักรถ 2,115 กก. การออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สัน และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัว

การออกแบบภายใน (Interior Design) สไตล์เรโทรที่แฝงความลักซ์ชัวรี รูปทรงปราดเปรียวสง่างามแต่ยังมีความน่ารัก การผสมผสานระหว่างเส้นโค้งและเหลี่ยมมุมได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมมอบความสุนทรีย์ในทุกช่วงเวลาการขับขี่ด้วยลำโพง Infinity และการตกแต่งห้องโดยสารด้วย Ambient Light และวัสดุสีเงิน ดำ และน้ำตาล (Silver, Black, Brown) การเชื่อมต่อของหน้าจอทั้ง 3 ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและปลอดภัย หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า (Head-up display) ระบบความบันเทิงพร้อมลำโพง Infinity จำนวน 11 ตัว ระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ และระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ ให้คุณภาพเสียงระดับสูง เพิ่มความสนุกในทุกการเดินทาง พวงมาลัยปรับแบบ 4 ทิศทาง เพิ่มความสะดวกสบายและคล่องตัวในการขับขี่ พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ไฟตกแต่งห้องโดยสาร พร้อมฟังก์ชันแบบหลายสีและเป็นจังหวะ ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้เพลิดเพลินในทุกการขับขี่และการผจญภัย เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทางและระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงจากรถ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 มาพร้อมที่พักแขนตอนกลาง ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมช่องเสียบ USB A และ USB C

พื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ มีพื้นที่เก็บของมากมาย ตอบสนองความต้องการในการจัดเก็บสิ่งของของผู้ใช้งานเป็นอย่างดี ทั้งกล่องใส่แว่นตาที่อยู่บนเพดานด้านหน้า พื้นที่จัดเก็บที่หลากหลาย บริเวณแผงคอนโซลกลางที่สามารถใส่ของใช้ส่วนตัว พร้อมกับที่วางแก้วน้ำ และบริเวณด้านข้างประตูยังมีช่องเก็บของสำหรับวางขวดน้ำ ร่ม และสิ่งของอื่น ๆ ในขณะที่ด้านหลังเบาะนั่งด้านหน้ามีกระเป๋าเก็บของ มอบความสะดวกสำหรับผู้โดยสารในการเก็บของและง่ายต่อการหยิบใช้ ยิ่งไปกว่านั้น เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับเบาะแยกได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระด้านหลังได้ แผงควบคุมที่คอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชันควบคุมการขับขี่ ช่วยให้การปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้ง 6 โหมดเป็นไปอย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดประหยัด โหมด WELL BEING โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดสปอร์ตพลัส และโหมดส่วนบุคคล เกียร์แบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้าด้านหลังพวงมาลัย ระบบ Intelligent Quick Start System เพิ่มความสะดวกสบาย ให้พร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อขึ้นมานั่งที่เบาะคนขับและเหยียบเบรก ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อม PM2.5 filter เพียบพร้อมด้วยระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ช่วยให้การชาร์จสมาร์ตโฟนสะดวกและรวดเร็ว ฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions) ด้วยการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบดังกล่าวมาพร้อมกับความสามารถในการอัปเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่าง ๆ รวมถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่น ๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) มีความสามารถในการจดจำเสียงได้เป็นอย่างดี จึงสามารถช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้ขับขี่สามารถสั่งการและโต้ตอบด้วยเสียงเพื่อใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ รวมไปถึงการเข้าถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ภายในรถ GWM Application ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชันของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อกและปลดล็อกประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง การปิดซันรูฟ การควบคุมระบบการระบายความร้อนของเบาะ การแสดงตำแหน่งรถยนต์และระบบตรวจสอบสถานะอื่น ๆ ที่สำคัญคือระบบ Intelligent One Pedal เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว รวมกับระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย

ORA 07 มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยช่วยให้การเดินทางอย่าปลอดภัยไร้กังวล ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ(Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้วรถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็ว ที่ช่วยควบคุมรถให้ติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่

จุดเด่นที่ ORA 07 มีก็คือระบบช่วยเรื่องความปลอดภัยที่หาได้ยากในรถแบบเดียวกัน อาทิ ระบบจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเส้นบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ และช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง  ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่ถูกบันทึกไว้ กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถจากมุมบน ระบบทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ทรถ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ช่วยตรวจจับรถยนต์ทั้งทางตรงและทางแยก เมื่อเสี่ยงต่อการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA&RCTB) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจาก ช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและ ส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน เซนเซอร์กะระยะ 6 จุดด้านหน้า และ 6 จุดด้านหลัง ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว ในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และกลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยแจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) เมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงานเพื่อป้องกันการถอยหลัง ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) หลังจากจอดรถยนต์แล้วระบบจะแจ้งเตือนหากระบบตรวจพบเป้าหมายที่เสี่ยงต่อการชนหากเปิดประตูรถยนต์ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง

RELATED ARTICLES
- Advertisment -









- Advertisment -